การท่องเที่ยวหนุนค่าเงินบาท แต่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังท้าทาย

105

สำนักข่าวของจีนรายงานว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ชาวจีนเดินทางมาเยือนมากที่สุดในช่วงตรุษจีนรับปีหมูทองนี้ โดยจำนวนผู้เดินทางออกจากประเทศจีนทั้งหมดในช่วงสัปดาห์ตรุษจีนอยู่สูงกว่า 6.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12.5% จากตรุษจีนปี 2561 ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งหมดในปี 2562 ที่ 41.1 ล้านคน เป็นการขยายตัว 7.5% จากปีก่อน ซึ่งสร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท เติบโต 10% และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปี 2562 จะเพิ่มขึ้น 11% เป็น 11.69 ล้านคน

 

ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 38.27 ล้านคน ขยายตัว 7.5% ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีน 10.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.4% ขณะที่ในเดือนธันวาคม 2561 การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับแรงหนุนจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival ด้วยเช่นกัน

 

รายรับในรูปเงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้าสู่ภาคธุรกิจบริการของไทยสามารถฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว เมื่อพิจารณาจากทุกครั้งที่เกิดมรสุมซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ หรือ เหตุการณ์ความไม่สงบก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในแง่อัตลักษณ์ของวัฒนธรรม ภูมิทัศน์ และการยกระดับต่อยอดการเพิ่มมูลค่า ประกอบกับผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งมีฐานะมั่งคั่งมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ มีส่วนทำให้ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดกว่า 10% ของจีดีพี ซึ่งสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยบ่งชี้ว่าในปี 2560 และ 2561 ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์และ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ตามลำดับ

 

อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวไทยยังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ เพื่อดูแลรอยยิ้มของทั้งผู้มาเยือนและการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

 

จากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง เงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่า อย่างไรก็ตาม สภาวะแวดล้อมของตลาดการเงินโลกที่สลับซับซ้อนมากขึ้นสร้างความผันผวนให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยนักลงทุนเฝ้าติดตามพาดหัวข่าวรายวัน ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่ยังไร้ข้อยุติ รวมถึงการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ท้าทายมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากวัฎจักรเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของไทยกับสหรัฐฯ นั้นไม่ได้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน

โดย คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)