ตลาดหุ้นไทยน่าลงทุนอยู่มั้ยในช่วงนี้ ..?? อาจเป็นคำถามที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เพราะปัจจัยที่ถูกคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลบวกต่อการลงทุน ตอนนี้พลิกกลับมาเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดกังวล นั่นคือ เรื่องการเลือกตั้ง ที่ตอนนี้เกิดประเด็นปัญหาเรื่องการยุบพรรคการเมืองขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่พรรคการเมืองต่างกำลังหาเสียงกันทั่วประเทศ แน่นอนว่าหากเกิดการยุบพรรคขึ้นก่อนวันเลือกตั้งจริง ย่อมมีผลต่อตลาดหุ้นพอสมควรโดยเฉพาะกับนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาซื้อหุ้นไทยในช่วงก่อนหน้า ได้เริ่มขายหุ้นไทยออกในช่วงนี้
แม้ปัจจัยสำคัญในต่างประเทศที่ตลาดจับตามอง มีทิศทางที่ในเชิงบวกต่อตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีน ที่ผู้นำของ 2 ประเทศจะพบกันในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน ซึ่งหากเกิดการตกลงเรื่องมาตรการภาษีกันได้จะเป็นผลบวกต่อตลาด รวมถึงการเปิดเผยรายงานการประชุมในเดือนมกราคมของคณะกรรมการนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) เกี่ยวกับมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯในปีนี้ KTBST คาดว่าสหรัฐฯจะขึ้นดอกเบี้ยของครั้งในปีนี้คือช่วงเดือน 6 และเดือน 12
อย่างไรก็ตามประเด็นในประเทศสหรัฐฯ ยังต้องติดตามเรื่องการอนุมัติสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯกับเม็กซิโก หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้มาตรการพิเศษ อนุมัติงบดังกล่าวจำนวน 8 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมากและยังเป็นการดึงงบประมาณของหน่วยงานอื่นมาใช้ จึงเป็นที่จับตามองว่าสภาครองเกรสจะอนุมัติให้ผ่านหรือไม่ หากสภาโหวตให้ผ่าน จะเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯได้
ดังนั้นโดยภาพรวม ปัจจัยต่างประเทศไม่เป็นผลลบต่อการลงทุนมากนัก แต่ปัจจัยในประเทศไทย กลับเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อทิศทางการลงทุน เนื่องจากมีประเด็นเรื่องการเสนอให้มีการยุบพรรคการเมืองต่างๆ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล และเกิดการขายของนักลงทุนต่างชาติ KTBST จึงแนะนำให้ ชะลอการลงทุน หาก SET Index ปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับ 1,620 จุด และพิจารณาถือเงินสดเพิ่มขึ้นในพอร์ตประมาณ 20% เพื่อรอดูสถานการณ์และความชัดเจน ขณะเดียวกันควรกระจายพอร์ตลงทุนไปสู่ตลาดประเทศที่น่าสนใจบ้าง เช่น ตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดีย ซึ่งระดับราคาหุ้นที่น่าสนใจ รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งหากการเจรจาการค้าของจีนกับสหรัฐฯประสบความสำเร็จจะเป็นบวกต่อตลาดญี่ปุ่น
นับเป็นอีกครั้งที่ตลาดเปลี่ยนทิศทางจนทำให้เราต้องพิจารณาชะลอการลงทุน แต่โดยภาพรวมยังไม่ถือว่าเป็นทิศทางที่ไม่มี ตลาดหุ้นไทยยังสามารถเลือกลงทุนได้ มีหุ้นหลายกลุ่มที่ยังน่าสนใจเช่น หุ้นจ่ายปันผลสูงที่ KTBST แนะนำ (ติดตามอ่านได้ที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1099593313554479&id=344233689090449 )
โดยชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)
