ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง โดยนายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 20% แตะระดับ 1.35 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้รวม 10,084.01 ล้านบาท และคาดปริมาณการขายยางพาราแปรรูปเพิ่มขึ้นเป็น 2.6 แสนตันต่อปี จากปีก่อนที่ 2.2 แสนตันต่อปี ตามความต้องการยางในตลาดโลกเติบโตเพิ่มขึ้น
ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% เนื่องจากราคายางพารามีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 47 บาท/กิโลกรัม จากช่วงต้นปีอยู่ที่ 40 บาท/ก.ก. และคาดทั้งปีนี้ราคายางยังปรับตัวสูงต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อรายได้และมาร์จิ้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนปี 62 ประมาณ 456 ล้านบาท ในการขยายกำลังการผลิตยางแผ่นผสม (RSS Mixtures Rubber) เพิ่มขึ้นอีก 60,000 ตัน/ปี คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้กลางเดือน มี.ค.62 นี้ ส่วนการสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (STR) และยางแท่งผสม (Mixtures Rubber) กำลังการผลิต 172,800 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในเดือน ม.ค.63
“ในช่วงเดือน เม.ย. นี้ บริษัทมีออเดอร์ส่งมอบยางแผ่นผสมให้กับลูกค้าจีนแล้ว 3 ราย รวม 2 พันตัน ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเดินทางไปเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในจีนเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จด้วยดี คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเจ้ามาเพิ่มทันทีในปี 62” นายชูวิทย์ กล่าว
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีการทำสัญญาระยะยาว (Long Term Contact) กับลูกค้าไปแล้ว11 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 8 ราย ทำให้บริษัทมีลูกค้าที่รอรับรู้รายได้ที่แน่นอนส่วนหนึ่งแล้ว อีกทั้งบริษัทมีการป้องกันความเสี่ยงของราคายางที่ผันผวนด้วยวิธี matching order โดยเมื่อมีคำสั่งซื้อจะสต็อกยางไว้ส่งมอบด้วยราคาที่ตกลงกันในเวลานั้น ไม่ได้เป็นการรับคำสั่งซื้อมาก่อนแล้วค่อยหาสินค้ามาส่งมอบภายหลังซึ่งราคาอาจจะไม่เท่าเดิม ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อรองรับเป็นระยะเวลา 6 เดือน