นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ในระบบกระจาย ส่งจ่ายและระบบการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าครบวงจร กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 น่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีงานรอรับรู้รายได้อยู่ในมือ(Backlog) ประมาณ 2,100 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับอานิสงค์จากโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชน เช่น ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การขยายสนามบิน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับเทคโนโลยีที่มาใหม่ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ โทรคมนาคมสื่อสาร ระบบ 5G รวมถึงการลงทุนในโครงการพาณิชย์ขนาดใหญ่ โรงพยาบาลรัฐและเอกชนและพลังงานทดแทนต่างๆ เป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการรวม 3,020.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือ 7.57% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตและจำหน่ายเอง ขณะที่ธุรกิจงานบริการก็ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงครึ่งหลังยังมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการขนาดใหญ่
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า รายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้นส่งผล ให้บริษัทและบริษัทย่อยกำไรสุทธิ 285.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 253.39 ล้านบาท
ทั้งนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคงดำเนินงานตามแผนในด้านของการขยายตลาดและสินค้าบริการที่เกี่ยวข้องกับความสามารถหลักขององค์กรที่มุ่งเน้นการนำเสนอเป็นโซลูชั่นและการบริการดูแลบำรุงรักษาและบริหารด้านพลังงานอย่างครบวงจร รวมทั้งขยายตลาดด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ระบบสมาร์ทคอนโทรลและระบบการควบคุมอัตโนมัติ โดยยอดขายในกลุ่มสินค้าและบริการดังกล่าวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.33 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการับเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2562
www.mitihoon.com