มิติหุ้น – GPSC ปิดดีลซื้อ GLOW แล้ว 69.11% มูลค่า 9.3 หมื่นล้านบาท เตรียมควักเงินเพิ่ม 4 หมื่นล้านบาท เสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 30.89% ก่อนพิจารณาถอนพ้น ตลท. หนุนกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 5,016 เมกะวัตต์
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ผู้ประกอบการกิจการโรงไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 3 ของไทย โดยนายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า ภายหลังจากได้ดำเนินการซื้อหุ้น บมจ.โกลว์ พลังงาน หรือ GLOW จาก ENGIE Global Developments B.V. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ GLOW ในสัดส่วน 69.11% โดยการชำระค่าหุ้นในราคาหุ้นละ 91.9906 บาท มูลค่าประมาณ 93,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนต่อจากนี้ เตรียมดำเนินการในขั้นตอนทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ (Tender Offer) สัดส่วนประมาณ 30.89% ของหุ้นทั้งหมดของ GLOW ในราคาเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นระหว่าง GPSC และ ENGIE Global อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มี.ค. 62 มูลค่าราว 40,000 ล้านบาท และรวมเป็นวงเงินที่ซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมด 133,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากยื่นเสนอ Tender Offer คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 25- 45 วันในการดำเนินการซื้อหุ้นจากรายย่อยแล้วเสร็จ และหากมีหุ้นกว่า 80% ก็จะดำเนินการเพิกถอนหุ้น GLOW ออกจากตลาดหลักทรัพย์ภายใน 1 ปี หรือเร็วสุดได้ในปลายปีนี้ หลังจากนั้นจะปรับยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่
สำหรับปี 62 จะมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) กว่า 432 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำลิก 26 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น 40% โดยเริ่ม COD ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 62 โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี 321 เมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น COD เดือนต.ค. 62 โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเฟสที่4 (CUP4) 45 เมกะวัตต์ ที่มาบตาพุด จ.ระยอง COD ไตรมาส3/62 และโครงการโซลาร์ฟาร์ม 9 โครงการรวม 40 เมกะวัตต์อยู่ระหว่างการขอญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการเข้าซื้อกิจการคาดแล้วเสร็จเดือน เม.ย.นี้
ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตติดตั้งในมือราว 2,245 เมกะวัตต์ ซึ่งรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความรวม 250 เมกะวัตต์ของบมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP และโซลาร์ฟาร์ม 40 เมกะวัตต์แล้ว และหากรวมกับการซื้อหุ้น GLOW จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 5,016 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการปีนี้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านนางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร กล่าวว่า การดำเนินการซื้อหุ้น GLOW บริษัทเตรียมเพิ่มทุนไม่เกิน 74,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3/62 เพื่อรองรับการซื้อกิจการ GLOW ที่เบื้องต้นใช้เงินกู้ระยะสั้นในกรอบ 1.33 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากเงินกู้สถาบันการเงินราว 100,000 ล้านบาท และกู้จาก PTT และ PTTGC 35,000 ล้านบาทจะส่งผลให้หนี้สินต่อทุน (D/E) เกินกว่า 3 เท่า ดังนั้น จะเพิ่มทุนและปรับหนี้ระยะสั้นเป็นหนี้ระยะยาวด้วยการกู้เงินจากสถาบันการเงินหรือออกหุ้นกู้ ซึ่งทำให้ D/E ลดลงเหลือไม่เกิน 1 เท่า โดยแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ปลายไตรมาส 2/62
www.mitihoon.com