“เอไอเอ”สร้างผลงานโตต่อเนื่อง เบี้ยปีแรกทะยาน15%

222

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2561 กลุ่มบริษัทเอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 22% คิดเป็น 3,955 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้น 15% เป็น 6,510 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงมีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 3.7 จุด คิดเป็น 60%

นอกจากนี้ยังมีผลกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี และเงินสดหมุนเวียนส่วนเกินเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวสวนทางกับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและความผันผวนของตลาดการเงิน โดยธุรกิจในประเทศจีน การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 30% เช่นเดียวกับฮ่องกงที่มีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้น 24% ในประเทศสิงคโปร์มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้น 18% ส่วนมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ในประเทศไทย กลับมามีการเติบโตถึง 12% ซึ่งเป็นผลมาจากพลังของฝ่ายตัวแทน

ช่องทางตัวแทนหนุนการเติบโต
โดยในในช่องทางการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตของเอไอเอ มีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึง 26% และปัจจุบันกลุ่มบริษัทเอไอเอ มีสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) มากกว่า 10,000 คน สำหรับด้านพันธมิตรธุรกิจ ช่องทางการขายผ่านธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันด์ มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ 18% โดยได้มีพันธมิตรทางธนาคารใหม่เพิ่มถึง 4 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารกรุงเทพ ในประเทศไทย และ เอส เค เทเลคอม (SK Telecom) ในประเทศเกาหลี

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารยังได้เห็นชอบในการเพิ่มเงินปันผลประจำปีที่สูงถึงร้อยละ 14 ในปี 2561 อีกทั้งยังให้เงินปันผลพิเศษมูลค่า 9.50 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงวันสิ้นสุดงบการเงินประจำปี การจ่ายเงินปันผลเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเอไอเอ และความมั่นใจที่มีต่อกลุ่มบริษัทเอไอเออีกด้วย

“ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งนี้ยังเป็นผลมาจากรูปแบบธุรกิจที่มีความหลากหลายแข็งแกร่ง และมีคุณภาพสูง ควบคู่กับความมุ่งมั่นในการคว้าโอกาสสำคัญๆ ที่ส่งผลให้เกิดการเติบโตในระยะยาวทั่วทั้งตลาดประกันชีวิตในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ในวาระการดำเนินธุรกิจครบรอบ 100 ปี เราขอยืนยันในการมุ่งมั่นทำตามคำมั่นสัญญาในการส่งมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเรา” นายอึง เค็ง ฮุย กล่าว