ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) โดยนายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 62 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางขายและบริการ ภายใต้โครงการ “TQM Digital” เพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดประกันออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ Insure Tech โดยการเดินหน้านำเทคโนโลยีมาปรับกระบวนการทำงานของทีคิวเอ็มสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “TQM เพื่อนคุณ 24 ชั่วโมง” ผ่าน 8 โครงการใหญ่ ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสมัยทั้ง Big Data, AI และ Cloud Server อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นโบรคเกอร์ประกันรายแรกที่พัฒนาฟีเจอร์ Real-time
ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะนำระบบ AI และ BIG DATA มาใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลมากขึ้น เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค ให้สามารถตอบสนองความต้องการหรือความสนใจได้อย่างแม่นยำ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันให้มีความเหมาะสม แตกต่างและหลากหลาย ทั้งความคุ้มค่าทั้งด้านราคาและความคุ้มครองมากที่สุดแก่ลูกค้า และนำมาต่อยอดพัฒนาในช่องทางการขายและการสื่อสาร โดยนำช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ได้แก่ TQM WEB, TQM Twitter, TQM FB, และ TQM IG มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกันภายใต้ชื่อ CHAT CENTER เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อประกันทุกประเภทแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย CHATBOT อัจฉริยะ
อีกทั้งนอกจาก CHATBOT บริษัทยังได้นำ Cloud Server เข้ามาใช้ในการทำงาน ทำให้มีความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการข้อมูล เข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลมากยิ่งขึ้น และเป็นการลดต้นทุนในการบริหารจัดการข้อมูล เป็นการรองรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG DATA) ในปัจจุบัน และสร้าง WEB SERVICE API เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีระบบโครงข่ายในการเก็บข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ (BLOCKCHAIN) สร้างความสะดวกให้แก่การดำเนินธุรกิจในการรับส่งแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทีคิวเอ็มกับบริษัทประกัน และหน่วยงานอื่นๆ
ทั้งนี้บริษัทยืนยันว่าจากการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ จะไม่มีการลดพนักงานที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4,000 ราย เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังไม่มีแผนเพิ่มพนักงานเข้ามา แต่มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตด้านยอดขายปีนี้เติบโตเป็น 12,690 ล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปีก่อนทำได้ 11,095 ล้านบาท และคาดจะมีโอกาสเติบโตเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท ในปี 63 หากการขยายงานในส่วนดังกล่าวเป็นไปตามแผน
