GPSC แนวโน้มQ1/62 โตดี ผู้ถือหุ้นอนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 250 เมกะวัตต์ของ TOP มูลค่ากว่า 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

236

มิติหุ้น – GPSC ชี้แนวโน้มไตรมาส 1/62 เติบโตดีกว่าไตรมาส 4/61 หลังจากไม่มีหยุดซ่อมบำรุง ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 250 เมกะวัตต์ ของ TOP มูลค่ากว่า 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย โดยนางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและบัญชีองค์กร เผยว่า  กำไรในไตรมาส 1/62 จะดีกว่าช่วงไตรมาส 4/61 ที่มีกำไรสุทธิ 486 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4 มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงไฟฟ้าศรีราชา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ขนาด 700 เมกะวัตต์ ขณะที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติไม่ได้สูงขึ้นมาก ประกอบกับได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ในต้นปี 62

ด้านนายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า  ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ในวันที่ 1 เม.ย. 62 ได้อนุมัติการเข้าลงทุนโครงการ Energy Recovery Unit โดยการเข้าซื้อหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit:ERU) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ของ บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP เพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการ ERU จาก TOP โดยมีมูลค่าเทียบเท่าทั้งสิ้นไม่เกิน 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.41 หมื่นล้านบาท

โดยโครงการ ERU ใช้เชื้อเพลิงหลักคือ กากน้ำมัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการกลั่นของโครงการ CFP โดยโครงการ ERU มีกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ติดตั้งประมาณ 250 เมกะวัตต์ และ 175 ตันต่อชั่วโมง  การลงทุนครั้งนี้คาดว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ที่ระดับ 8% โดยโครงการจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระหว่างบริษัทในฐานะผู้ขาย และ TOP ในฐานะผู้ซื้อ มีระยะเวลา 25 ปี ซึ่งจะมีราคาค่าไฟฟ้าเชื่อมโยงกับราคาตลาด