BANPU กระแสเงินสดปีละ 1.2 พันล้านเหรียญ มีศักยภาพในการลงทุนและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เล็งพัฒนาถ่านหินในแหล่งมองโกเลีย กูรูเคาะเป้า 22 บ.

267

มิติหุ้น – BANPU ชี้มีกระแสเงินสดปีละ 1.2 พันล้านเหรียญ มีศักยภาพในการลงทุนและจ่ายปันผลให้นักลงทุนสม่ำเสมอ เล็งพัฒนาถ่านหินในแหล่งมองโกเลีย ผลิตเป็นน้ำมันดีเซล-ปิโตรเคมี กูรูชี้กำไรยังแกร่งแนะนำซื้อ เป้า 22 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู หรือ BANPU ผู้ประกอบธุรกิจผลิตจำหน่ายถ่านหิน และธุรกิจพลังงานทดแทน โดยนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาปีละประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเงินสดในมือกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งจะสามารถรองรับการลงทุนในกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ในช่วงปี 62-63 บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนรวม 835 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบด้วยธุรกิจแหล่งพลังงาน  ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน

ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาเหมืองถ่านหินในประเทศมองโกเลีย ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อนำถ่านหินมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซล และปิโตรเคมี โดยเหมือง TU และเหมือง UK มีการตั้งโรงงานทดลองขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ส่วนเหมือง AN จะเป็นการผลิตถ่านหินเพื่อเป็นเชื้อเพลิงป้อนเข้าสู่โรงไฟฟ้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน โดยปัจจุบันได้เจรจากับโรงไฟฟ้าดังกล่าวที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและจะเริ่มเดินเครื่องผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า คาดว่าไตรมาส 1/62 กำไรของ BANPU จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 4/61 เนื่องจากจะได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าของ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP  ที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จ.ระยอง จะกลับมาเดินเครื่องได้มีประสิทธิภาพหลังจากหยุดซ่อมบำรุงไปในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จะได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าหงสาที่ สปป.ลาวคาดว่าจะรักษาประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้ในระดับ 87-88% รวมถึงมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปีนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 62 ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 9,777 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาถ่านหินซึ่งเป็นธุรกิจหลักจะอยู่ในระดับ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันก็ตาม ซึ่งหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีนจบในเดือน พ.ค. 62 การเมืองภายในประเทศมีความชัดเจน ฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในไทย ก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อ BANPU ซึ่งเป็นหุ้น 10 ตัวแรกที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ดังนั้น จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายของปี 62 ไว้ที่ 22 บาท

www.mitihoon.com