นักลงทุนจำนวนไม่น้อย คงถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้น” กับราคาหุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ถึงได้ดิ่งหนัก ทั้งที่ควรจะ “ขึ้น” ตามภาวะการลงทุนที่ดัชนีค่อยๆ ปรับขึ้นมา และนักลงทุนต่างชาติ “กลับมาซื้อ” อีกครั้ง ก่อนเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์
รอบนี้ SCC ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาจากที่ลงไปลึกแตะ 420 บาท กระทั่งมาแตะไฮที่ 490 บาท เมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 แต่หลังจากนั้น โดนเทกระหน่ำต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 3 เม.ย. ลงหนักถึง 12 บาท และล่าสุดปิดตลาดวันที่ 11 เม.ย.ที่ระดับ 454 บาท ลดลงอีก 12 บาท
SCC ปี 2561 ทำกำไรสุทธิ 44,748.34 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้นที่ 37.29 บาท ลดลงค่อนข้างมากจากปี 2560 ที่กำไรสุทธิ 55,041.25 ล้านบาท ส่วน Book Value อยู่ที่ 230.91 บาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันเทรดบน P/BV ที่ 2.02 เท่า ขณะที่ค่า P/E อยู่ที่ 12.50 เท่า
ล่าสุด บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST แนะนำ “Sell” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 465 บาท/หุ้น พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า ประมาณการกำไรสุทธิ SCC ในไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 10,011 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ ลดลง 4%จากไตรมาสก่อน
มาจาก (1) ธุรกิจปิโตรเคมีอ่อนตัว ทั้งลงทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันปีก่อน โดยส่วนต่างราคาเฉลี่ยมีการปรับตัวลดลงทั้ง PP และ PE (2) กลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคาดว่าลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน (3) ธุรกิจแพคเกจจิ้งคาดว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน
โดย KTBST มองว่า ยังมีปัจจัยกดดันผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี โดยในตรมาส 2/62 จะบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ประมาณ 2,000 ล้านบาท และทิศทางของกลุ่มปิโตรเคมียังอ่อนตัวตามสภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และกลุ่มธุรกิจซีเมนต์ยังมีโมเมนตัมจากภาครัฐ แต่ภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนโครงการก่อสร้างต่างๆ ดังนั้น จึงปรับคำแนะนำเป็น “ขาย” คงราคาเป้าหมายที่ 465 บาท โดยมองว่าช่วงที่เหลือของปี ยังไม่มีอะไรโดดเด่น
