เปิดฉากปี 2562 เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วและทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 5 ปี ที่บริเวณ 31.07 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ (กราฟด้านล่าง) แต่หลังจากนั้นเงินบาทกลับทิศทางและปรับตัวอ่อนค่าเรื่อยมาท่ามกลางหลากหลายปัจจัยชี้นำการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งรวมถึงแนวนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกที่โน้มเอียงไปในทางกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น และการรอความชัดเจนด้านนโยบายเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งของไทย
สำหรับบทความนี้ เราขอให้น้ำหนักไปที่ปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลักเนื่องจากการคาดการณ์ของตลาดต่อการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลต่อการตัดสินใจจัดสรรเงินลงทุนของเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลก ซึ่งอิทธิพลดังกล่าวถือเป็นสารตั้งต้นที่ลากโมเมนตัมในตลาดและส่งผลด้านจิตวิทยาต่อการทำธุรกรรมของผู้นำเข้าส่งออกซึ่งเป็นภาคธุรกิจจริง อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสนใจว่า แม้เฟดเปลี่ยนท่าทีด้านนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งปรับลดคาดการณ์ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดเอง ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ เปิดเผยแผนยุติการลดขนาดงบดุล ไปจนถึงการหั่นประมาณการเศรษฐกิจ แต่เงินดอลลาร์กลับไม่ได้อ่อนค่าลงมากนัก
สถานการณ์ในปัจจุบันบ่งชี้บริบทที่ธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งล้วนปรับนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมใจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นเวลานานขึ้น กรณีคู่ขนานของเฟดที่เห็นได้ชัดคือธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งพยายามสื่อสารกับตลาดว่าได้ปรับท่าทีสู่สายพิราบมากขึ้น
จากประเด็นข้างต้น เราคาดว่าเงินบาทจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจการค้าโลกชะลอตัวในระยะนี้ อย่างไรก็ดี ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง และนโยบายการเงินที่สกัดกั้นขาขึ้นของดอกเบี้ยโลก จะมีส่วนช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ ส่วนความไม่ชัดเจนทางการเมืองในประเทศอาจมีผลบ้างต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่หลายภาคส่วนเห็นตรงกันว่าไม่ว่าขั้วใดจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าจะสานต่อนโยบายการลงทุนขั้นพื้นฐานเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของประเทศในระยะยาว
นอกจากนี้ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงของไทยจะทำหน้าที่เสมือนกันชนซึ่งจะช่วยจำกัดการอ่อนค่าของเงินบาทกรณีนักลงทุนต่างชาติเทขายสินทรัพย์ทั่วทั้งตลาดเกิดใหม่ โดยสำหรับไตรมาส 2/2562 ประมาณการค่าเงินบาทของเราอยู่ที่ 31.50 ต่อดอลลาร์
โดยรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
www.mitihoon.com
