มิติหุ้น-IRPC ไตรมาส1/62 ฉายแววเด่นคาดมีกำไรสต๊อกน้ำมัน ชี้ GIM เฉลี่ยในระดับ 11-12 เหรียญฯ ประเมินราคาน้ำมันทั้งปีเฉลี่ย 65 เหรียญฯ โบรกประเมินปีนี้ผลงานโต 25% คาด IMO ดันค่าการกลั่นครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมแนะนำเป้าราคา7บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC ผู้ประกอบการโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ไตรมาส1/62 จะมีกำไรสต๊อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบสิ้นเดือน มี.ค. 62 เฉลียที่ระดับ 67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าสิ้นปี61 ราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) รวมผลกระทบจากการสต๊อกน้ำมันอยู่ในระดับ 11-12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้นจากไตรมาส4/61 อยู่ที่ 6.58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัท
ราคาน้ำมันเฉลี่ย65เหรียญฯ
ขณะที่ภาพรวมปี 62 คาดว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยในระดับ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบในการกลั่นน้ำมันและผลิตปิโตรเคมีสูงขึ้น แต่จะกระทบต่อผลประกอบการบริษัทหรือไม่ก็ต้องดูส่วนต่างราคาน้ำมันด้วยหากส่วนต่างราคาน้ำมันดีขึ้นก็จะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นอย่างต่อเนื่องซึ่งสามารถทำให้ศักยภาพการผลิตดีขึ้นต้นทุนต่ำลงจึงมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีกว่าปี61
สำหรับผลกระทบจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปีนี้นั้น บริษัทจะตั้งสำรอง 760 ล้านบาท จากพนักงานที่มีอยู่ราว 5,100 คน นอกจากนี้การที่บริษัทยังคงมีการถือครองที่ดินเปล่าอยู่ราว 2 พันไร่นั้น หากไม่มีการพัฒนาก็จะต้องเสียภาษีที่ดินตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่จะบังคับใช้ในปี 63 นั้น คาดว่าจะทำให้บริษัทเสียภาษีที่ดินราว 100 ล้านบาท
โบรกการันตีQ1กำไรแกร่ง
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่งประเมินหุ้น IRPC ว่า ผลประกอบการไตรมาส1/62 จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างชัดเจนหลังจากช่วงไตรมาส4/61 ขาดทุนสุทธิราว 1.6 พันล้านบาท เนื่องจากได้รับประโยชน์จากกำไรสต๊อกน้ำมัน ขณะค่าการกลั่นก็ปรับตัวดีขึ้น แม้ต้นทุนการผลิตจะสูงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ตามแต่จะถูกชดเชยด้วยราคาCrude premium ที่ต่ำลง โดยปัจจุบันมีราคาไม่ถึง 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากไตรมาส4/61 อยู่ในระดับ 3.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่กรณีองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จะเป็นปัจจัยหนุนให้ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง62 ดังนั้นในปี62 จึงประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 10,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปี 61 และประเมินราคาเป้าหมาย 7 บาท แนะนำซื้อ