SET แกว่งตัวครอบแคบ จับตาการเมืองในเดือน พ.ค.

61

SET Index  วันทำการแรก (22 เม.ย.) ของสัปดาห์นี้ ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,673.48   จุด  -0.62 จุด หรือ -0.04%  โดยภาพรวม ยังเห็นการเคลื่อนไหวของตลาดในแบบทรงตัว โดยระหว่างวันมีแรงซื้อดันให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ก่อนจะมีแรงขายในช่วงใกล้ปิดตลาด ซึ่งปัจจัยที่คาดว่าจะเป็นตัวกดดันตลาดคือรายงานตัวเลขการส่งออกในเดือนมีนาคมของไทยที่ออกมาติดลบ 4.9% ทั้งการส่งออกรถยนต์ , อิเล็กทรอนิกส์  ที่เป็นผลมาจากเรื่องสงครามการค้า ขณะเดียวกันรายงานงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2562 ที่ออกมาของกลุ่มธนาคารแม้จะมีผลกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขส่วนต่างของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) มีการปรับตัวลง และ ตัวเลขหนี้เสีย (NPLs) มีการปรับเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มธุรกิจของกลุ่มธนาคารอาจจะไม่ดีนัก รวมทั้งยังสะท้อนไปถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่ดีด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 74 เหรียญฯ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ยกเลิกสิทธิพิเศษของ 8 ประเทศในการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านไปอีก 6 เดือน ถือเป็นผลบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน แต่ภาคการขนส่งอาจได้รับผลกระทบรวมไปถึงระดับอัตราเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งต้องจับตามอง

อีกประเด็นที่ต้องติดตาม คือการายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ (26 เม.ย.) คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 1.8% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งก็อาจจะเป็นผลบวกต่อตลาดแต่อาจไม่มากนัก เนื่องจากตลาดสหรัฐฯปรับตัวรับข่าวไปแล้ว

โดยภาพรวมของสัปดาห์นี้ ตลาดต่างประเทศทั้งสหรัฐฯและเอเชีย มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบ ทั้งนี้เมื่อมองที่ราคาหุ้นแล้วจะเห็นว่าราคาได้ปรับขึ้นมาอยู่ระดับที่ถือว่าไม่ถูกนัก จึงอาจเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ทิศทางยังเคลื่อนไหวทรงตัว ปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน แม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยวรวมถึงราคาน้ำมันที่ขยับตัวขึ้น KTBST จึงแนะนำลงทุนเป็นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของหุ้นในสัปดาห์นี้ที่ 1,665 – 1,690 จุด  ขณะเดียวกันยังแนะนำกระจายการลงทุนต่างประเทศ เช่น ตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังการเจรจาการค้าเริ่มคลี่คลายลงและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล

ทั้งนี้ใกล้จะหมดเดือนเม.ย. และเข้าสู่เดือน พ.ค. ประเด็นทางการเมืองน่าจะเริ่มมีความร้อนแรงมากขึ้น ตลาดกำลังจับตามองการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 9 พ.ค. และจะเริ่มมีการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนั้น  แน่นอนว่าจะมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนของไทยไม่น้อยทีเดียว คงต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างกันอย่างใกล้ชิดในช่วงจากนี้เป็นต้นไป …

ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดยชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com