นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม-ธันวาคม 2561 ในอัตรา 0.0623 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พ.ค.2562
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 รายได้และกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 6 แห่ง บุ๊ครายได้จากการขายไฟเข้าระบบเต็มปี และแนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการที่เราเตรียม COD เพิ่มอีก 3 โครงการ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตรอบใหม่ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น”
นอกจากนี้ ในวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อ “โรงไฟฟ้าสยาม พาวเวอร์” ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ในรูปแบบ FIT เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้ยื่นลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายภายใน 120 วัน โดยโครงการดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาก่อสร้างและบริหารจัดการระบบการนำขยะมูลฝอยจากหลุมฝังกลบมาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าปริมาณ 3 ล้านตัน เป็นเวลา 23 ปี
ทั้งนี้ บริษัทฯพร้อมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี มูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยโครงการนี้ได้รับค่าไฟฟ้าในรูปแบบ FIT ราคาหน่วยละ 5.78 บาท คาดอัตราผลตอบแทน EIRR อยู่ที่ 18-23 % ต่อปี ร่วมผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“เรายังคงเป้าหมายในปี 2563 กุมกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าจากขยะกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ โดยในช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา TPCH ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ กทม.มูลค่าราคากลางการลงทุนโครงการละประมาณ 6,700 ล้านบาท เข้าประมูลในนาม บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด ที่บริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 50% และได้เตรียมเครื่องมือทางการเงินไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว”
นอกจากนี้ TPCH ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างประเทศ เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมุ่งเน้นไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV เป็นหลัก
www.mitihoon.com