มิติหุ้น – ALL กระแสตอบรับล้นหลาม ขายหุ้น IPO 150 ล้านหุ้นเกลี้ยง จ่อเข้าเทรด mai 8 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL โดยดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ALL เผยว่า หลังจากที่ได้เปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ ALL จำนวน 150 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.90 บาท รวมเป็นเงินมูลค่า 735 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 26, 29-30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อหุ้น IPO เข้ามาเต็มทั้งจำนวน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของ ALL
ทั้งนี้ เชื่อว่าหุ้น ALL จะกระจายสู่นักลงทุนทั้งรายใหญ่ รายย่อย และสถาบันอย่างทั่วถึง เนื่องจากมีการจัดจำหน่ายผ่านผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1. บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) 2. บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และ 3. บล.คันทรี่ กรุ๊ป โดยหุ้น ALL เตรียมจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562
ด้านนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALL กล่าวว่า หุ้น IPO ของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและมีการจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ และยังมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 บริษัทฯ มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 6,190 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้จนถึงปี 2565
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ซึ่งบริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ โดยปี 2562 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 18,250 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise จำนวน 3 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise จำนวน 3 โครงการ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ ALL
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมที่ปิดการขาย (สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ 100%) จำนวน 5 โครงการ, โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 3 โครงการ, โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและขาย จำนวน 1 โครงการ, โครงการที่อยู่ระหว่างการขายและรอการพัฒนา จำนวน 7 โครงการ และเป็นโครงการ ทาวน์โฮม จำนวน 1 โครงการ ซึ่งเริ่มเปิดขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2562
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากตลาดทุนและตลาดเงิน เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินของบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น ซึ่ง ณ สิ้นปี 2561 บริษัทมีสินทรัพย์รวมมูลค่าประมาณ 6,010 ล้านบาท มีหนี้สินรวมมูลค่าประมาณ 5,238 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 6.78 เท่า และมีอัตราส่วนภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย (Interest-Bearing Debt) ต่อทุน (IBD/E Ratio) ที่ 4.66 เท่า ซึ่งหลังจากการระดมทุนบริษัทฯจะนำเงินบางส่วนชำระหนี้จากสถาบันการเงิน คาดว่าจะทำให้ D/E Ratio และ IBD/E Ratio ลดลงภายหลังการเข้าจดทะเบียนฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559 – 2561) โดยในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 420 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 11 ล้านบาท ส่วนในปี 2560 บริษัทฯมีรายได้รวม 714 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 81 ล้านบาท และในปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 2,343 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 343 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) 2.63%, 11.31% และ 14.66% ของช่วงเวลาดังกล่าว
www.mitihoon.com