BBL สายแข็ง!ทั้งปีกำไร4หมื่นล. สินเชื่อโต-แบงก์แอสชัวรันส์หนุน (3/05/62)

162

มิติหุ้น – BBL สินเชื่อกลับมาเร่งตัวมากขึ้นจากไตรมาส 1/62 ที่หดตัว 2.5% ประเมินสินเชื่อปี 62 ยังเติบโตตามเป้าหมายที่ 4-6% ขณะที่การตั้งสำรองหนี้ยังทรงตัว หนุนกำไรปี 62 เฉียด 4 หมื่นล้านบาท ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมมีโอกาสฟื้นตัว รับแรงหนุนการเติบโตของธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และกองทุนรวม

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีโอกาสเห็นสินเชื่อกลับมาเร่งตัวมากขึ้น โดยนายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เผยว่า ภาพรวมสินเชื่อของ BBL มีโอกาสกลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากที่ไตรมาส 1/62 สินเชื่อชะลอตัว 2.5% เป็นผลจากการที่ลูกค้ามีการชำระคืนสินเชื่อ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่

ประเมินกำไรยังสูงเฉียด 4 หมื่นล.

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงมองว่าสินเชื่อในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 62 จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง และสินเชื่อรวมทั้งปี 62 จะยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 4-6% ส่วนของการตั้งสำรองฯ คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับเดียวกับปีก่อนที่ 2 หมื่นล้านบาท โดยระดับนี้เพียงพอที่จะรองรับการทำธุรกิจปกติ

ในส่วนของ IFRS 9 นั้น ทาง BBL ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดย BBL ยังเป็นธนาคารที่มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงที่สุดในกลุ่มที่ 189% ซึ่งฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 62 ของ BBL ไว้ที่ 3.96 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากปีก่อน โดยยังมองว่าสินเชื่อรายใหญ่จะเป็นสินเชื่อหลักที่ทำให้สินเชื่อของกลุ่มธนาคารในปีนี้เติบโต และน่าจะทำให้สินเชื่อของ BBL กลับมาเป็นบวกได้

แบงก์แอสชัวรันส์หนุนรายได้พุ่ง

ด้านนางสาวสุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ฝ่าวิจัยยังคงแนะนำ “ซื้อ” BBL ราคาเป้าหมาย 245 บาท คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/62 จะอยู่ที่ราว 9.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากคาดการณ์รายได้จากเงินปันผลที่เติบโตราว 182% ตามฤดูกาลการจ่ายเงินปันผล และคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจะฟื้นตัว 2% ซึ่งหลักๆ มาจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ ที่ปัจจุบันดำเนินการขายผลิตภัณฑ์ประกันของทั้ง AIA และ BLA รวมทั้งยังมีโมเมนตัมการเติบโตที่ดีจากธุรกิจกองทุนรวม คาดว่ายังเห็นการเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/62 เนื่องจากได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้กองทุนรวมมีความน่าสนใจมากขึ้น