TKN  เพิ่มสาขาดันยอดขาย แนะซื้อ-เป้าอร่อย12.80 บ. (3/05/62)

460

มิติหุ้น – TKN ปักธงยอดขายปี 62 โต 10% จากตลาดใน-ต่างประเทศหนุน แถมรับอานิสงส์ต้นทุนสาหร่ายปรับตัวลดลง  คาดยอดขายไตรมาส 2/62 โตต่อเนื่อง เริ่มเห็นผลทำตลาดในจีน และตลาดสหรัฐฯ ผ่านมาตรฐาน วางแผนขยายสาขาในประเทศเพิ่ม ดันยอดขายโตต่อ  กูรูแนะนำ “ซื้อ” ให้เป้า 12.80 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปทั้งในและต่างประเทศ และผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพประเภทอื่นๆ โดยนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ภาพรวมยอดขายทั้งปี 62 คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน ตามการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมั่นใจว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบสาหร่ายปรับตัวลดลงกว่า 15% ขณะที่บริษัทได้ซื้อตุนสต็อกล่วงหน้าเพียงพอต่อการผลิต เพื่อปิดความเสี่ยงรองรับไว้แล้ว

ยอดขายไตรมาส 2/62 โตต่อ

ทั้งนี้ ประเมินยอดขายไตรมาส 2/62 คาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากมีการเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศจีนในปีที่ผ่านมา คาดจะเริ่มเห็นผลในด้านการทำตลาดส่วนแผนขยายธุรกิจในสหรัฐฯ ยังมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดเพิ่ม หลังจากได้เข้าไปเทกโอเวอร์โรงงานผลิตสาหร่ายที่สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบมาตรฐานจากห้างสรรพสินค้า Costco ที่เข้ามาตรวจสอบเป็นครั้งที่สอง เพื่อให้โรงงานผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน และสามารถนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้ คาดกระบวนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ามีโอกาสผ่านมาตรฐาน

อัดงบขยายสาขาเพิ่ม – เป้า 12.80 บ.  

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนขยายสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ และเถ้าแก่น้อยแลนด์พลัส ในปี 62 เพิ่ม  4-5 สาขา จากปัจจุบันมี 20 สาขา โดยใช้งบลงทุนประมาณ 1-3 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนร้านอาหารข้าวแกงกะหรี่ “Hinoya Curry” ซึ่งเป็นร้านอาหารจานด่วน บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกภายในปีนี้ 1 สาขาด้วยเช่นกัน
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ไอร่า ประเมินธุรกิจ TKN คาดกำไรสุทธิปี 62 ไว้ที่ 642 ล้านบาท กลับมาเติบโตสูงถึง 40% หลังลดลง 25% เมื่อปี 61 ซึ่งถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่น การเปิดสำนักงานใหม่ในจีน การเปิดใช้เครื่องจักรใหม่ และการเปลี่ยนตัวแทนจัดจำหน่าย และคาดยังได้รับประโยชน์จากต้นทุนสาหร่ายที่ปรับตัวลดลง และมีแผนขยายตลาดไปในสหรัฐฯ  ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท