สรรพากรจบดราม่าเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก กร้าว! ไม่ได้ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ย้ำ! ดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี

387

มิติหุ้น – สรรพากรจบดราม่าเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก กร้าว! ไม่ได้ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ย้ำ! ดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กรมสรรพากร โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดี เปิดเผยถึงกรณีที่ได้มีประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์และผลตอบแทนเงินฝากตามหลักการของศาสนาอิสลามที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามตามหลักการวะดีอะฮ์

โดยกรมสรรพากรได้มีการหารือร่วมกันกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 62 เพื่อกำหนดแนวทางการส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้แก่กรมสรรพากร

โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ฝากเงินมากที่สุด โดยเห็นพ้องในการแก้ไขประกาศข้างต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ทั่วประเทศให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี โดยที่ธนาคารจะเป็นผู้นำส่งข้อมูลดอกเบี้ยของผู้ฝากเงินแก่กรมสรรพากร แต่หากผู้ฝากเงินไม่ประสงค์จะได้รับยกเว้นภาษีต้องแจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยไม่ให้นำส่งข้อมูลภายในวันที่ 7-14 พ.ค.62 ซึ่งธนาคารจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยที่ได้รับในอัตรา 15% โดยปัจจุบันกรมสรรพากรอยู่ระหว่างปรับปรุงประกาศฉบับดังกล่าว

“การที่กรมสรรพากรให้แบงก์พาณิชย์นำส่งข้อมูลลูกค้าเงินฝาก ไม่ใช่เพราะเราจะจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น หรือเราต้องการรู้ข้อมูลของประชาชน เพราะต่อให้ไม่มีข้อมูลจากแบงก์ ทางกรมสรรพากรก็มีข้อมูลทางอื่นอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เรามองว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ฝากเงินมากกว่า เพราะหากรายใดได้รับดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี ทางแบงก์ที่รับฝากเงินก็หักเงินอยู่แล้ว และเมื่อถึงตอนที่เสียภาษีรายได้ประจำปีก็อาจจะถูกเรียกเก็บจากกรมสรรพากรอีก เท่ากับว่าจะต้องเสียภาษีในอัตราสูงถึง 30% และเรื่องนี้ยังถือเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ฝากเงินทุกรายด้วย” นายเอกนิติ กล่าว

ทั้งนี้ การนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝาก กรมสรรพากรจะรับรู้แค่ข้อมูลดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเป็นผู้จ่ายให้กับลูกค้า แต่จะไม่ได้รับทราบส่วนข้อมูลอื่นๆ ของลูกค้าธนาคาร จึงขอให้ผู้ฝากเงินมั่นใจ และไม่ต้องตื่นตระหนกในเรื่องนี้ และลูกค้าเงินฝากของธนาคารที่ยังต้องการได้สิทธิทางภาษีนี้ก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะทางธนาคารจะเป็นผู้นำส่งข้อมูลมาให้กรมสรรพากรเอง

อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ฝากเงินรายใดไม่ประสงค์รับสิทธิทางภาษี และไม่ต้องการให้ธนาคารนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากนี้ก็จะต้องแจ้งและเขียนแบบฟอร์มกับทางธนาคาร ซึ่งลูกค้ารายนั้นจะต้องเสียอัตราภาษี 15% ของดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับตามกฏ และทางธนาคารจะต้องส่งแบบภงด.2 ให้ลูกค้าไปยื่นภาษีด้วย

www.mitihoon.com