KTAMขายกองตราสารหนี้ตปท. จ่ายยิลด์1.80%ต่อปี

83

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 235 (KTFF235) ตั้งแต่วันนี้ – 14 พ.ค. 2562 อายุโครงการ 6 เดือน เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งประกอบด้วย เงินฝากประจำ Agricutural Bank China, Bank of China, China Construction Bank Asia, AL Ahli Bank และ Comercial Bank PQSC ผลตอบแทนประมาณ 1.80% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดา ไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกช่วงอายุตามแรงขาย หลังตลาดผิดหวังต่อท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เนื่องจากการจ้างงานที่ยังแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐ จะพยายามกดดันให้ธนาคารกลาง (Fed) ลดดอกเบี้ยทันที 1% ก็ตาม

สงครามการค้าปัจจัยยกดดัน

ในขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน กลับมามีความไม่แน่นอนหลังสหรัฐขู่ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 200,000 ล้าน USD จาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 10 พ.ค. เพื่อกดดันให้การเจรจาบรรลุข้อตกลงโดยเร็ว ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดี โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps. มาอยู่ที่ 2.33% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps. มาอยู่ที่ 2.33% และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 bps. มาอยู่ที่ 2.54%

ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ มีการปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบตามแรงขายของต่างชาติ ตามการอ่อนค่าของเงินบาทจากการส่งออกเดือนมี.ค. ที่ติดลบมากกว่าคาดและความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ในขณะที่นักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อเมื่ออัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อเดือนเมษายนจะขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าก็ตาม โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps. มาอยู่ที่ 1.82% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps. มาอยู่ที่ 2.12% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.55% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง