ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ และตั้งเป้าที่จะเก็บภาษีในอัตรา 25%จากสินค้าจีนมูลค่า 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอีกไม่ช้า ซึ่งเท่ากับว่าจะเป็นการขึ้นภาษีสำหรับสินค้าจีนเกือบทั้งหมดที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ ข่าวนี้กดดันค่าเงินหยวนรวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกระหว่างชั่วโมงการซื้อขายตลาดเอเชีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ อ้างว่าจีนถอนตัวออกจากภาระผูกพันสำคัญที่จีนเคยให้สัญญาไว้ในระหว่างการเจรจาการค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ ส่งผลให้ทรัมป์ตัดสินใจจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บจากสินค้าจีน
เราตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิกิริยาของตลาดลดความรุนแรงลงในช่วงการซื้อขายที่นิวยอร์ค โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดช่วงลบ (กราฟด้านล่าง) ส่วนเงินเยนซึ่งมักถูกมองว่าเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยแข็งค่าเพียงเล็กน้อย สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ว่าคำขู่ล่าสุดของทรัมป์อาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเจรจาต่อรอง และตลาดมีความหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้ในที่สุด ทางด้านรองนายกรัฐมนตรีจีน ยังคงมีกำหนดจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อหารือกับสหรัฐฯ แต่ด้วยจำนวนของคณะผู้แทนเจรจาที่น้อยลง
แม้ประเด็นข้อพิพาททางการค้าซึ่งรุมเร้าบรรยากาศการลงทุนในตลาดการเงินโลกมาเกือบตลอดทั้งปี 2561 กำลังส่งแรงกระเพื่อมที่ลดลงต่อ Sentiment ของตลาดค่อนข้างชัดเจน แต่เรามองอย่างระมัดระวังว่านักลงทุนยังไม่ควรมองข้ามปัจจัยเสี่ยงนี้ ขณะที่ประเด็นความพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและคู่ค้าสำคัญอื่น เช่น ยุโรป ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่อยู่ในภาวะเปราะบางท่ามกลางการค้าโลกที่ชะลอตัวซึ่งกระทบกับโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกหรือมีความเชื่อมโยงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูง
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่ายังไม่เห็นเหตุผลเพียงพอที่สนับสนุนให้ปรับจุดยืนเกี่ยวกับดอกเบี้ยไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยประธานเฟดระบุว่าการปรับลดลงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยชั่วคราว ส่งผลให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปีนี้ และยังคงลังเลที่จะขายเงินดอลลาร์ในระยะสั้นๆ
โดยรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
www.mitihoon.com