มิติหุ้น – TOP คาดไตรมาส 2 ค่าการกลั่น – สเปรดน้ำมันฟื้นตัวหลังจากเข้าสู่ไฮซีซันการขับขี่ โรงกลั่นต่างประเทศปิดซ่อมหนุนผลประกอบแกร่ง จับตาสงครามการค้าตัวแปร ประเมินราคาน้ำมันคาดปีนี้เฉลี่ย 60-65 เหรียญฯ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ผู้ประกอบการโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า ไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 4,408 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 5,607 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลประทบจากสเปรดราคาน้ำมันดิบเบนซินเทียบกับราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปปรับตัวลดลงต่ำที่ระดับ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ประกอบกับค่าการกลั่นรวม (GRM) ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน ปรับตัวลดลงอยู่ในระดับ 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แม้จะมีกำไรจากการสต๊อกน้ำมันก็ตาม
ส่วนไตรมาส 2/62 คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันในการขับขี่ของอเมริกา และยุโรป ประกอบกับโรงกลั่นในกลุ่มนี้ปิดซ่อมบำรุง จึงจะส่งผลให้กำลังการผลิตหายไปจากตลาด ซึ่งจะช่วยให้สเปรดราคาน้ำมันดิบเบนซินเทียบกับราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปปรับดีขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ในระดับ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนสเปรดราคาน้ำมันดิบกลุ่มดีเซลเทียบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลอยู่ที่ระดับ 12-13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายไตรมาส 2/62 ถึงต้นไตรมาส 3/62 หรือตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย. ถึงกลางเดือน ก.ค.62 TOP จะหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น จะส่งผลให้กำลังกลั่นลดลงเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการ
ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง 62 จะได้รับปัจจัยบวกจากกรณีการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เนื่องจากบริษัทได้กลั่นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานในสัดส่วน 60% ของกำลังการกลั่นรวมจะส่งผลให้สเปรดราคากลุ่มน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ส่วนสเปรดราคากลุ่มน้ำมันเบนซินต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจ แต่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนต่อ GRM ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องระวังคือ เรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ส่งผลให้ดีมานด์ลดลง และเรื่องการแซงชั่นอิหร่าน ส่งผลซัพพลายลดลง ต้องมาดูว่าอันไหนจะลดลงมากกว่ากัน อย่างไรก็ตาม TOP ยังคงประเมินราคาน้ำมันในปีนี้อยู่ที่ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
www.mitihoon.com
