มิติหุ้น – BANPU ชี้ไตรมาส 2/62 กำไรโตต่อ หลังปริมาณขายถ่านหิน ธุรกิจไฟฟ้าจ่ายไฟฟ้าเพิ่ม เดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ โบรกแนะเป้าซื้อ 22.50 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู หรือ BANPU ผู้ประกอบการธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (เชลล์แก๊ส)ในสหรัฐฯ ของ BANPU มีแนวโน้มเติบโตสดใส หลังความต้องการก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีความต้องการนำก๊าซธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงการนำไปผลิตเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
เชลล์แก๊สโตสดใส อัดงบลงทุนเพิ่ม
ดังนั้น การลงทุนในธุรกิจเชลล์แก๊สในสหรัฐฯ ช่วงปี 62-63 จึงได้เตรียมงบลงทุนไว้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดจะสามารถรองรับการขยายการลงทุนได้อีกประมาณ 220-230 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาราคาขายที่เหมาะสม ซึ่งการลงทุนในธุรกิจเชลล์แก๊ส จะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง พร้อมมองโอกาสต่อยอดธุรกิจปลายน้ำอย่างโรงไฟฟ้าในอนาคต โดยปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อลูกบาศก์ฟุต
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 916 ล้านบาท เทียบไตรมาส1/61 ที่ขาดทุนสุทธิ 1,262 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) 7,302 ล้านบาท
Q2 กำไรโตดี – แนะเป้า 22.50 บ.
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินหุ้น BANPU ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะมีกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นเทียบไตรมาส 1/62 และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจถ่านหินที่มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากเหมืองออสเตรเลียผลิตได้เต็มที่ เพราะปริมาณฝนตกลดลง ขณะที่ราคาถ่านหินปัจจุบันเฉลี่ยระดับ 86-87 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ถือว่าอยู่ในระดับที่ BANPU พอใจ และคาดว่าปีนี้จะเฉลี่ยในระดับ 90-95 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้ามีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มขึ้น และมีประสิทธิภาพทั้งโรงไฟฟ้าหงสา และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ดังนั้น ในภาพรวมปี 62 ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 11,592 ล้านบาท ประเมินราคาเป้าหมายของปี 62 ไว้ที่ 22.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”