มิติหุ้น – ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ราช กรุ๊ป หรือ RATCH ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย โดยนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส1/62 มีกำไรสุทธิ 1,741 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 54.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขายของโรงไฟฟ้าหลัก และส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมทุนที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับรายได้รวมอยู่ที่ 11,230.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ และบริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำนวน 9,245.06 ล้านบาท คิดเป็น 82.3% ของรายได้รวม และรายได้จากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุนจำนวน 1,081.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน มิ.ย.62 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไร จากโครงการโรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิต 99.23 เมกะวัตต์ โดย RATCH ถือหุ้น 35% ดังนั้นจะส่งผลให้ไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า ธุรกิจพลังงาน และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่ากิจการให้ถึง 200,000 ล้านบาท หรือ 10,000 เมกะวัตต์เทียบเท่าในปี 66 รวมทั้งบริษัทยังมีความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์คอลลินสวิลล์ กำลังผลิต 42.5 เมกะวัตต์ ในออสเตรเลียที่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว
ขณะที่บริษัทยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว กำลังผลิตติดตั้งรวม 275 เมกะวัตต์ในอินโดนีเซีย มูลค่า 222 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,104 ล้านบาท และเงินกู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเลกเตอร์ ในออสเตรเลีย มูลค่า 179 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 4,117 ล้านบาท
