นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สินและกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 1/2562 กำไรสุทธิโตแรง 89.36% อยู่ที่ 27.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.93 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 64.38% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 36.51 % รายได้รวมอยู่ที่ 75.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.91 ล้านบาท หรือ 49.68% เนื่องจาก ธุรกิจบริหารหนี้เติบโต รับรู้รายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพ และการจัดเก็บหนี้เพิ่มขึ้น รวมทั้ง เริ่มรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อหนี้ไม่มีหลักประกันของบริษัทย่อย
โดย ในไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อหนี้เข้ามาบริหารแล้ว 198.82 ล้านบาท รวมมีมูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ราว 38,550 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 91% และหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 9%
“ผลงานที่ออกมาในไตรมาส 1 ปีนี้ เป็นไปตามคาด กำไรโตกว่า 89% ส่วนรายได้โตเกือบ 50% เป็นผลจากความสำเร็จในการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของบริษัทฯ เงินลงทุนที่ใช้ไปในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเก็บเกี่ยวออกผล โดยเฉพาะหนี้ที่มีหลักประกันที่ได้ซื้อในปี 2560 และ 2561 เริ่มทยอยขายออกไปเพื่อสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ประกอบกับ ความเชี่ยวชาญในงานจัดเก็บหนี้ที่ไม่มีหลักประกันได้เพิ่มขึ้น และการตัดต้นทุนที่น้อยลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้และกำไรสุทธิ เติบโตอย่างน่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เราคาดว่า ธุรกิจจะอยู่ในเทรนขาขึ้น CHAYO จะยังเดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง แผนธุรกิจปล่อยสินเชื่อจะเข้ามาสนับสนุนให้บริษัทฯ แข็งแกร่งกว่าเดิม ” นายสุขสันต์ กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/2562 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากการทยอยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันเข้ามาบริหาร โดยคาดว่าจะมีหนี้ทยอยออกมาประมาณ 2,000 ล้านบาท บริษัทฯ คาดหวังจะเข้าร่วมประมูลและได้งานราว 25 – 50% ของมูลค่ารวมหรือไม่น้อยกว่า 500 – 1,000 ล้านบาท และเชื่อว่างานประมูลจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2562 และไตรมาส 4/2562 ซึ่งเป็นช่วงที่สถาบันการเงินจะเร่งขายหนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก
ในปีนี้วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 1,000 – 1,250 ล้านบาท ส่วนใหญ่นำไปซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารราว 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน 70 – 80% และหนี้ไม่มีหลักประกัน 20 – 30% ตั้งเป้าเริ่มปล่อยสินเชื่อในปีนี้ได้ราว 200 – 250 ล้านบาท ระหว่างไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการปล่อยสินเชื่อบุคคล (Personal Loan) และสินเชื่อนาโน (Nano Finance) สนับสนุนเป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 255.65 ล้านบาท
หน้าแรก มิติร้อน