มิติหุ้น – CWT ชี้ผลงานไตรมาส 2/62 พุ่งไม่หยุด เหตุรับรู้รายได้ 4 ธุรกิจหลัก ซุ่มเจรจาต่อเรือให้ EA ฮุบงาน Retrofit รถล็อตใหญ่ จ่อคว้าโรงไฟฟ้าเพิ่ม 9.5MW จากปัจจุบัน 13MW แถมคุยลูกค้ารายใหม่จากจีน หวังส่งมอบเบาะหนังรถยนต์ มั่นใจทั้งปี 62 ฟันรายได้นิวไฮ 50%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT โดยนายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการ ผู้จัดการ เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 จะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 36.70 ล้านบาท และรายได้จากการขายและบริการ 552.92 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก 4 ธุรกิจ ทั้ง ธุรกิจรถมินิบัส, ธุรกิจต่อเรือ, ธุรกิจพลังงาน และ ธุรกิจผลิตภัณฑ์เบาะหนังรถยนต์
รับทรัพย์ธุรกิจรถ – เรือ
โดย “ธุรกิจรถมินิบัส” ที่ดำเนินการโดย“บจ.สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น หรือ Sakun C (CWTถือหุ้น 50.01%) ช่วงไตรมาส 2/62 จะทยอยส่งมอบรถมินิบัส Aluminum จากยอดจองในงาน “Bus & Truck 2018” รวม 208 คัน มูลค่าสูงถึง 463.15 ล้านบาท (เริ่มส่งมอบช่วงQ1/62)
นอกจากนี้ Sakun C ยังได้รับงานปรับปรุงรสบัสนำเที่ยว “ไจแอ้นท์ ซิตี้ ทัวร์” ของ “บจ.อะเมซิ่ง บัสทัวร์” ซึ่งเป็นรถบัสให้บริการแบบ Hop on Hop off แห่งแรกในกรุงเทพฯ โดยจะปรับปรุงรถ (Retrofit) ให้เป็นรถบัสไฟฟ้า EV Bus จำนวน 12 คัน กว่า 84 ล้านบาท เพื่อตอบสนองตามนโยบาย Bangkok Green City คาดจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 4/62
ด้าน “ธุรกิจต่อเรือ” ของ Sakun C อยู่ระหว่างเจรจารับงาน “โครงสร้างการต่อเรือไฟฟ้า” ให้กับ “บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA” มูลค่า 20 ล้านบาท/ลำ พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนผลักดัน SAKUN C เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 65 ด้วย
พลังงาน – ยานยนต์โตฉลุย
ขณะที่ “ธุรกิจพลังงาน” ในปี 62 จะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเต็ม13 MW ส่วนแผนการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ซึ่งขณะนี้บริษัทเป็นผู้บริหารจัดการบ่อขยะแล้ว โดยจะต้องรอลักษณะขอบเขตของการเข้าขอเป็นผู้ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าจากขยะ (TOR) คาดไม่เกินไตรมาส 2/62
โดยหลังจากนั้นบริษัทจะยื่นขอใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าจาก กกพ. เบื้องต้นคาดหวังจะได้ใบอนุญาตให้ไฟฟ้าจากขยะ ขนาด 9.50 MW ซึ่งจะขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ จำนวน 8 MW ด้าน “ธุรกิจผลิตภัณฑ์เบาะหนังรถยนต์” ก็สร้างรายได้ได้มากขึ้น ล่าสุดมี Backlog แตะที่ระดับ1,500-1,600 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหม่จากจีนเพิ่มเติมด้วย
ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตนิวไฮกว่า 50% แตะที่ 3 พันล้านบาท แบ่งเป็นของ SAKUN C ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท , ธุรกิจผลิตภัณฑ์เบาะหนังรถยนต์ ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท และธุรกิจพลังงาน