ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างงานทุกประเภททั้งงานโยธาและ งานเครื่องกล โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/62 ของ STEC ที่มีกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท เติบโต 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการที่ STEC มีการส่งมอบงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สีชมพู และสีเหลือง อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ Margin ยังรักษาระดับได้ดี ทรงตัวที่ 7% แต่รายจ่ายการบริหารเพิ่มจาก 109 ล้านบาท เป็น 146 ล้านบาท เพราะการตั้งสำรอง-ค่าชดเชยเพิ่มเติมกรณีพนักงานเกษียณอายุและเลิกจ้างตามกฎหมายใหม่ ทำให้กำไรปกติเพิ่ม 39% แต่กำไรสุทธิเพิ่มแค่ 17% เพราะไตรมาส 1/61 มีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุน 45 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/62 ที่ไม่มีรายการพิเศษ ซึ่งภาพรวมกำไรถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่าการที่ STEC มี Backlog เป็นจำนวนมากจะหนุนกำไรปีนี้ โดยปัจจุบันมี Backlog สูงถึง 1.05 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าของฐานรายได้ปีก่อน ทำให้ทิศทางรายได้ปี 62 เติบโตได้ต่อเนื่องอีก 15% ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างสำคัญ ปูน และเหล็ก ไม่ผันผวน ทำให้ STEC สามารถบริหารมาร์จิ้นได้ไม่ยาก ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดกำไรปกติ เพิ่มขึ้น 14% แต่เนื่องจากปีก่อนมีรายการพิเศษราว 307 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนและการตีมูลค่าอสังหาฯเพื่อลงทุนเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิปีนี้น่าจะอ่อนลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังเลือก STEC เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากการเน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และ Backlog มากขึ้นช่วยเพิ่มความแน่นอนของรายได้ ขณะที่ Margin ยังคุมได้กำไรเติบโตต่อเนื่อง และ P/B ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มี Upside รวมปันผล 18% จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” STEC และประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 28.60 บาท