ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด หรือ XO ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร โดย “นายจิตติพร จันทรัช” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า มั่นใจกำไรสุทธิจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า (62-64) เพราะบริษัทจะเน้นขายสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูง รวมถึงออกสินค้าใหม่ๆ
ปักธงรายได้นิวไฮ10-15%
โดยในปี 62-64 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 10-15% ซึ่งปีนี้คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะมากกว่า 40% จากปีก่อนที่ 37.91% ด้านอัตรากำไรสุทธิจะมากกว่าปีก่อนที่ 19.31% เพราะปีนี้บริษัทจะได้รับอานิสงส์การปรับขึ้นราคาขายเต็มปี (ขึ้นราคาQ3/61) และเจาะตลาดสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้ม เพื่อขยายสู่ช่องทางการขายใหม่ และลูกค้าในประเทศที่มีศักยภาพ
ด้านงบลงทุนปีนี้ตั้งไว้ที่ 130 ล้านบาท เพื่อทำโรงงานพริกดองซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต เพราะปัจจุบัน สายการผลิตมีขนาดเล็ก และไม่สามารถรับพริกได้เพียงพอ ซึ่งบริษัทเตรียมที่ดินไว้แล้ว ที่ “นิคมอมตะซิตี้”กว่า 10 ไร่ (ไม่รวมในงบลงทุน) เพื่อรองรับฤดูกาลพริกที่จะออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ XO มีต้นทุนที่ดี คาดจะแล้วเสร็จในปี 63
รายได้พุ่งหนุนQ2เด่น
ด้าน “บล.โนมูระ พัฒนสิน” กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่องจาก Organic growth ทางฝั่งของยอดขาย ,การขยายตลาดในประเทศใหม่และความสามารถในการบริหารต้นทุน-ล็อคราคาวัตถุดิบได้อย่างน้อยสิ้นปี 62 อีกทั้งยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เป็น Net cash company จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 14.60 บาท
ขณะที่ “บล.เอเชีย เวลท์” กล่าวว่า ปี 62 คาดกำไรสุทธิจะโตต่อเนื่อง จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากการรับรู้การขายสินค้าราคาใหม่เต็มปี และบริษัทตั้งเป้าขายสินค้ากลุ่มซอสเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียที่บริษัทเพิ่งเข้าตลาด
รับทรัพย์หั่นต้นทุน-เป้า14.70บ.
นอกจากนี้บริษัทได้เปลี่ยนสกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขายกับลูกค้ารายใหญ่แห่งหนึ่งจากสกุลเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินบาท เพื่อลดความเสี่ยงด้านค่าเงิน คาดในปี 62 สัดส่วนยอดขายสกุลเงินบาทอยู่ที่ 70-75% จากที่ก่อนที่ 56% , อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบ เช่น น้ำตาล กระเทียม และพริก ที่ต่ำ โดยบริษัทสามารถล็อคต้นทุนน้ำตาลที่ราคาต่ำได้ถึงครึ่งแรกปี 63 และล็อคราคากระเทียมได้ถึงครึ่งหลังปี 63 แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 14.70 บาท
ล่าสุด XO มีผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้ม สัดส่วน 80% รองลงมา คือ กลุ่มเครื่องแกงเครื่องประกอบอาหารไทย , กลุ่มเครื่องดื่ม , กลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานอาหาร และกลุ่มอื่นๆ
