ก.พลังงานเตรียมเรียกกลุ่มโรงกลั่น บริษัทน้ำมัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ รับมือสถานะการน้ำมันโลก หวั่นเกิดวิกฤตสงครามตะวันออกกลาง – สงครามการค้า

263

มิติหุ้น – ก.พลังงานเตรียมเรียกกลุ่มโรงกลั่น บริษัทน้ำมัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ รับมือสถานะการน้ำมันโลก หวั่นเกิดวิกฤตสงครามตะวันออกกลาง – สงครามการค้า

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 พ.ค. 62 ได้เชิญกลุ่มบริษัทโรงกลั่น บริษัทผลิตน้ำมันในประเทศไทย รวมถึงหน่าวยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือถึงแผนรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานเตรียมพร้อมรับมือความไม่สงบในตะวันออกกลาง หลังจากมีความตรึงเคลียดในประเทศอิหร่าน เวเนซุเอลา ลิเบีย โดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศซอุอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งหากมีการปิดช่องแคบจะเกิดผลกระทบการน้ำมเข้าน้ำมันดิบ

นอกจากนี้ ต้องจับตาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาด้วย เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน ดังนั้น ในระยะนี้จึงต้องให้กลุ่มบริษัทโรงกลั่น บริษัทผลิตน้ำมันในประเทศไทย รวมถึงหน่าวยงานที่เกี่ยวข้องรายงานการผลิตน้ำมันสำเร็จรูป การนำเข้าน้ำมันดิบ สต๊อกน้ำมันที่มีอยู่ ราคาซื้อขาย การขนส่งเพื่อเป็นข้อมูลพิจารณารองรับกับสถานการณ์น้ำมันหากเกิดวิกฤตราคาปรับตัวขึ้นเร็ว ก็จะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันมาช่วยพยุงราคา โดยปัจจุบันมีเงินกองทุนน้ำมันเหลืออยู่ประมาณ 36,000-37,000 ล้านบาท และมีสต๊อกน้ำมันอยู่ราว 30-45 วัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับ 72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และคาดว่าครึ่งปีหลังราคาน้ำมันจะเฉลี่ยในกรอบ 73-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองกลุ่มตะวันออกกลาง สงครามการค้า และการประชุมของกลุ่มโอเปกว่าจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันอีกหรือไม่ รวมถึงกรณีสหรัฐอเมริกาแทรงแซงอิหร่าน

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มโรงกลั่นและบริษัทผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทยที่จะเข้าร่วมหารือในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ประกอบด้วยกลุ่ม บมจ.ปตท. หรือ PTT บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือ SPRC บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จํากัด บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เป็นต้น

www.mitihoon.com