มิติหุ้น – EGCO พร้อมลงทุนโรงไฟฟ้าเก่าในพื้นที่ระยองพัฒนาเป็นนิคมอุสาหกรรม EEC หวังขยายลงทุนธุรกิจ LNG ขณะไตรมาส 4/62 จ่ายไฟฟ้าไซยะบุรี ซานบัวนาเวนทูรา รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 383 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปีนี้โตแกร่ง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ โดยนายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการลงทุนในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการจัดทำแผนดำเนินงานและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าเก่าที่จ.ระยอง ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม EEC ในลักษณะ Smart Industrial Estate เพื่อรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าปี 61 เนื่องจากมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามาเพิ่ม โดยในไตรมาส4/62 เตรียม COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี ที่สปป.ลาว กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 160 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินซานบัวนาเวนทูราในประเทศฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 223 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตทั้ง 2 โครงการเป็น 383 เมกะวัตต์ ช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน1 ใน สปป.ลาวกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 161 เมกะวัตต์จะเริ่ม COD ในไตรมาส2/65
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนต่อเนื่องในประเทศฟิลิปปินส์ สปป.ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ เวียดนาม เป็นต้น ส่วนโครงที่อยู่ในแผนอย่างโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ ในเวียดนาม ที่ถือหุ้น 30% คาดหวังจะได้ PPA ภายในปี62 เพราะโครงการดังกล่าวยังถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของเวียดนามที่ต้องเริ่ม COD ในปี 67
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 บริษัทฯมีกําไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จํานวน 2,915 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 จํานวน 13,223 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมกําไรจากการขายเงินลงทุน จํานวน 14,162 ล้านบาท บริษัทฯ มีกําไรจากการดําเนินงานปกติก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จํานวน 939 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47 โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จํานวน 1,028 ล้านบาท
www.mitihoon.com