PRM ปิดดีลซื้อหุ้น Big Sea เพิ่ม กำไรวิ่งทะลุ 900 ล้าน-เป้า9.10บ. (27/05/62)

238

มิติหุ้น – PRM เผยเดือนมิ.ย.นี้ปิดดีลซื้อหุ้น Big sea เพิ่มอีก 10% รวมถือเป็น 80% พร้อมบุ๊คผลงานเพิ่มทันตาเห็น ลุยอัพแกร่งกองเรือพร้อมสร้างรายได้รวม 29 ลำ โบรกฯ ประเมินไตรมาส 2/62 ยังโตแกร่ง มีแววดันกำไรปีนี้ วิ่งทะลุ 900 ล้านบาท ชี้เป้าซื้อ 9.10 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลว โดยนายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า บริษัทได้เตรียมเงินทุนไว้ไม่เกิน 380 ล้านบาท เพื่อนำมาเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 10% ในบริษัท บิ๊กซี จำกัด (Big Sea) ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทถือครองหุ้นรวมทั้งสิ้น 80% ขณะเดียวกัน ยังสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานของ Big Sea เข้ามาได้ทันทีภายหลังจากกระบวนการชำระเงินเสร็จสิ้นในเดือนหน้า

เสริมทัพกองเรือพร้อมสร้างทรัพย์ 29 ลำ

สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ดีได้ในทุกไตรมาส หลังจากที่บริษัทมีแผนเดินหน้าธุรกิจด้วยการขยายกองเรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีนี้บริษัทจะมีกองเรือรวมทั้งสิ้น 29 ลำ ทั้งจากการรับเรือเข้ามาใหม่และการจำหน่ายเรือที่มีอายุมากออก เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพในระดับสูงสุด

กำไรวิ่งทะลุ 900 ลบ. – ส่งซิก “ซื้อ”

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพท์ บล.โกลเบล็ก เผยว่า แนวโน้มไตรมาส 2/62 คาดผลดำเนินงานจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยเด่น ได้แก่ 1) ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันภายในประเทศ (Domestic Trading) มีสัดส่วนรายได้ 46% ณ ปลายไตรมาส 1/62  มีเรือให้บริการทั้งหมด 28 ลำ และในช่วงไตรมาส 2/62 จะรับเรือลำใหม่และเริ่มให้บริการ 2 ลำ นอกจากนี้ ช่วงเดือน มิ.ย. จะเข้าถือหุ้น Big Sea เพิ่มอีก 10% รวมเป็น 80%

และ 2) ธุรกิจเรือเก็บน้ำมัน (Floating Storage Unit: FSU) มีสัดส่วนรายได้ 37% ณ ปลายไตรมาส 1/62 มีเรือให้บริการทั้งหมด 5 ลำ และในช่วงไตรมาส 2/62 จะเริ่มให้บริการเรืออีก 2 ลำ เริ่มดำเนินการแล้ว 1 ลำ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. และอีก 1 ลำ จะเริ่มให้บริการเดือน มิ.ย. พร้อมกับการปรับขึ้นค่าบริการขนส่ง ส่วนแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี จะเติบโตจากการควบรวมกับ Big Sea เต็มปี ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิทั้งปีจะอยู่ที่ 903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท