มิติหุ้น-บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์( BTS) โดยนายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า รายได้รวมจากการดำเนินงานปี 2561/62 อยู่ที่ 47,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239.8 % จากปีก่อนที่มีกำไร 33,821 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจระบบขนส่งมวลชน ธุรกิจสื่อโฆษณาและธุรกิจบริการ ส่วนกำไรสุทธิจำนวน 2,873 ล้านบาท ลดลง 34.9 % หรือ 1,543 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการลดลง ของกำไรจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ไปยัง ยูซิตี้ที่เคยบันทึกไปแล้วในปีก่อน
ด้านนายวิจิตร อารยะพิเศิษฐ ผู้อำนวยหารฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำชะลอลงทุนหุ้น BTS เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก BTSGIF (BTS ถือหุ้นใน BTSGIF ราว 30 %) มีผลขาดทุนสะสมเท่ากับ 1,297.15 ล้านบาท และไม่สามารถจ่ายปันผลได้ โดย BISGIF มีการรับรู้รายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นมูลค่า 5,300 ล้านบาท เกิดจากการปรับประมาณการรายได้ค่าโดยสารสุทธิลง
ทั้งนี้บทวิเคราะห์ บล.บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ยังระบุอีกว่า การที่ BTSGIF ไม่จ่ายปันผลในครั้งนี้ เป็น Negative Surprise เนื่องจากช่วง 6 ปีที่จัดตั้งกองทุนจ่ายปันผลต่อเนื่อง การปรับประมาณการายได้ลงและกระทบต่อมูลค่าการงลงทุนเป็นมูลค่าที่สุงสะท้อนให้เห็นว่าในการตั้งสมมติฐานของกองทุนทำไว้สูงเกิน และจะต้องมีการประเมินใหม่ทุก 3 ปี อย่างไรก็ตาม BTSGIF จะต้องล้างขาดทุนสะสมเสียก่อนจึงจะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้
www.mitihoon.com