ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ หรือ CHOW ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว และพลังงานทดแทน โดย “นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ” ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร เผยว่า ช่วงปลายไตรมาส 2/62นี้ เตรียมประกาศเข้าลงทุน “โรงไฟฟ้าในประเทศที่ 3” จากปัจจุบันได้ลงทุนโรงไฟฟ้าในไทย และ ญี่ปุ่นไปแล้ว
รวมถึงอยู่ระหว่างเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อบรรลุเป้าหมายภายใน 5 ปี (62-66) มีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหาร 500 MW หรือเฉลี่ย 100 MW/ปี ด้านฐานเงินทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1. การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน และ 2. การขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 80 ล้านหุ้น ที่ได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้
บุ๊คขายสินทรัพย์-ไฮซีซั่นหนุน
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่นมีศักยภาพมากขึ้น ประกอบกับบริษัทจะบันทึกกำไรและรายได้การขายทรัพย์สินโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นที่เหลืออีก 1 โครงการด้วย จากช่วงไตรมาส 1/62 ขายไปแล้ว 4 โครงการ (กำหนดขาย 5โครงการรวม 5.86 MW หรือ 545 ล.)
ขณะที่ช่วงไตรมาส 3/62 ผลประกอบการจะเร่งตัวมากขึ้น เพราะนอกจากจะยังเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจแล้ว ในไตรมาสนี้จะโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) 1 โครงการ ขนาด 7.2 MW และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 1 โครงการ ขนาด 12 MW จากสิ้นปี 61 มีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วทั้งสิ้น 60 MW
ออเดอร์เหล็กทะลัก
ด้าน “ธุรกิจเหล็ก” จะกลับมาเติบโตดีขึ้น ภายหลังปรับปรุงพื้นที่และเครื่องจักรเพื่อเตรียมกระบวนการผลิต รองรับสัญญาว่าจ้างการผลิต (OEM) ดังนั้นบริษัทจะสามารถทยอยส่งมอบเหล็ก ที่บริษัทได้รับจ้างผลิตให้กับลูกค้าได้ 400,000 ตัน/ปี โดยปี 62 คาดยอดขายอยู่ที่ 200,000 ตัน จากปีก่อนที่ 180,000 ตัน ล่าสุด CHOW มีโรงงานผลิตเหล็ก 2 เฟสรวม 730,000 ตันต่อปี ใช้กำลังผลิตไปแล้ว 50% ของกำลังผลิตทั้งหมด
ดันลูกเข้าเทรด-เป้า3.75บ.
ส่วนการผลักดันบริษัทย่อย “บมจ.เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ หรือ CEPL” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ซึ่งได้มีการแต่งตั้งบล.เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดจะเข้าซื้อขายด้าน “แหล่งข่าวนักวิเคราะห์” เผยว่า ในปี 62 ธุรกิจไฟฟ้าและเหล็กจะดันกำไร CHOW พุ่งกระฉูด เพราะจะมีโรงไฟฟ้าที่ COD พร้อมทำกำไรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีโปรเจ็กต์ขายโรงไฟฟ้า 4 โครงการกว่า 505 ล้านบาท คาดกำไรราว 100 ล้านบาท ส่วน “ธุรกิจเหล็ก” จะเริ่มส่งมอบออเดอร์ 400,000 ตัน/ปี ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ โดยคาดรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท/ปี ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.75 บาท