มิติหุ้น – SAWAD ควักเงิน 2.7 พันลบ. จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน BFIT แถมมีมติใช้สิทธิส่วนเกิน หากไม่มี ผถห.เดิมใช้สิทธิ พร้อมตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์ฯ กวาดหุ้นที่เหลือทั้งหมด
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD โดยนางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร เผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้บริษัทใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน)หรือ BFIT ซึ่งบริษัทจะมีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 149,950,797 หุ้น ในราคาหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่า 2,699.11 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นเดิมรายใดไม่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทก็มีมติให้ SAWAD จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน BFIT เพิ่มเติมสูงสุด หากไม่มีผู้ถือหุ้นเดิมรายใดใช้สิทธิเลยจะมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสิทธิอยู่จำนวน 180,797,549 หุ้น ในราคาหุ้นละ 18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,254.36 ล้านบาท โดยหากผู้ถือหุ้นเดิมไม่ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BFIT เลย บริษัทก็จะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด จะส่งผลให้บริษัทถือหุ้นใน BFIT จำนวน 430,715,544 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 78.13% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วหลังจากการเพิ่มทุนและจำหน่ายได้ทั้งหมด
การใช้สิทธิเกินจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวส่งผลให้บริษัทถึงจุดที่จะต้องทำคำเสนอซื้อ( Tender Offer)หุ้นที่เหลือทั้งหมดของ BFIT จำนวนทั้งสิ้น 120,531,699 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 21.87% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BFIT ในราคาหุ้นละ 18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินที่ใช้ในการทำคำเสนอซื้อทั้งสิ้นประมาณ 2,169.57 ล้านบาท บริษัทก็พร้อมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการในการถือครองหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ
“การที่คณะกรรมการบริษัทมีมติใส่เงินเพิ่มทุนดังกล่าว เพราะต้องการที่จะให้แผนเพิ่มทุนของ BFIT สำเร็จตามแผนธุรกิจที่วางไว้และเพื่อให้ BFIT มีทุนสอดคล้องกับกฎเกณฑ์และข้อบังคับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหากการเพิ่มทุนดังกล่าวทำให้ถึงจุดที่ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ บริษัทก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยที่การใส่เงินเพิ่มทุนและทำเทนเดอร์ฯในครั้งนี้ ไม่ได้กระทบต่อสภาพคล่องของบริษัทแต่อย่างใด” นางสาวธิดา กล่าว
พร้อมกันนี้ ผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทจะได้รับนั้น การลงทุนในหุ้นของ BFIT เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ส าคัญของบริษัทที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจสินเชื่อ เพิ่มความหลากหลายของสินเชื่อที่บริษัทให้บริการ เสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการสินเชื่อแก่บุคคลรายย่อย นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นโอกาสการจัดหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำจากเงินรับฝากจากประชาชนผ่านการดำเนินงานของ BFITซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของกลุ่มบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
www.mitihoon.com