ORI ขึ้นแท่นเข้า SETHD ควบ SET100 มั่นใจรายได้รวมปี 62 แตะ 1.9 หมื่นล้านตามเป้า

149

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI โดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า จากการปรับปรุงรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณ SET High Dividend 30 Index (SETHD) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ORI เป็นหลักทรัพย์ใหม่ที่ได้รับการนำไปคำนวณใน SETHD รอบ 6 เดือนแรกของปี 2562 (1 ม.ค.-30 มิ.ย.2562) เนื่องจากมีอัตราปันผลสูงสุดที่คำนวณไว้ ณ รอบทบทวนล่าสุด ซึ่ง ORI ยังได้เป็นหลักทรัพย์ที่นำเข้าคำนวณดัชนี SET100 รอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 (1 ม.ค.-มิ.ย. 2561) ด้วย และยังคงสถานะหลักทรัพย์ที่ได้รับการคำนวณใน SET100 จนถึงปัจจุบัน
“การได้รับการคำนวณดัชนีทั้งใน SETHD และ SET100 สะท้อนถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทในด้านต่างๆ ทั้งมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ มีมวลรวมการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และยังสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการจ่ายปันผลในอัตราที่สูงและต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่ดีและเติบโตขึ้นได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่องของบริษัท” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ และดำเนินการต่างๆ ให้เป็นไปได้ตามเป้าหมาย เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน ควบคู่ไปกับการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2562 นี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 28,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวมไว้ที่ 19,000 ล้านบาท โดยบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากสถานการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 1/2562 ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ ขณะเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัญญาณบวกที่เข้ามาช่วยกระตุ้นสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีความคึกคักมากขึ้น อาทิ นโยบายลดหย่อนภาษีการซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท และความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 10 โครงการ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ ทั้งคอนโดมิเนียมหรูภายใต้แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) โครงการคอนโดมิเนียมเจาะตลาด First Jobber และ First Condo Buyer ภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้น (The Origin) และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์บริทาเนีย (Britania)
สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 56 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 88,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร