ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ 7UP โดยนายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของบริษัทในระยะสั้นและระยะยาว มีวัตถุประสงค์มุ่งแก้ไขให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทสูงกว่า 50%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เพื่อปลดเครื่องหมาย “C” รวมถึงดำเนินการให้ผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นบวก
โดยแผนในระยะสั้นคาดว่าจะรับรู้ผลบวกจาก 4 ธุรกิจหลักประกอบด้วย ธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดว่าจะบันทึกกลับการตั้งด้อยค่าในส่วนของโรงไฟฟ้าวิทัยมูลค่า 50 ล้านบาทได้ในไตรมาส2/62 และคู่สัญญาได้เสนอให้โรงไฟฟ้าในภาคใต้ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 6 เมกกะวัตต์ เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าวิทัย
ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำ ล่าสุดได้ส่งมอบงานปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้งให้กับ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF เฟสที่ 1 จำนวน 5 โครงการ เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 62 และเตรียมส่งมอบงานเฟสที่ 2 จำนวน 2 โครงการภายในไตรมาส 3/62 ขณะที่เฟสที่ 3 จะเป็นโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำในระบบปิดคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 62 นี้
ส่วนธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม ล่าสุดได้รับงานวางสายไฟเบอร์ออพติคมูลค่า 15 ล้านบาท และคาดว่าจะได้รับงานในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมูลค่าราว 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยเฟสแรกคาดว่ามีระยะทาง 146 กิโลเมตร
ขณะกลุ่มธุรกิจแก๊สนั้นปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการแก๊ส LPG 30 แห่ง คาดว่าในปี 62 นี้ จะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทพลิกเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 นี้ และคาดว่าภายในไตรมาส 3/2562 จะสามารถปลดเครื่องหมาย “C” ได้
สำหรับแผนระยะยาวนั้นบริษัทได้ดำเนินธุรกิจกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันได้รับใบอนุญาตจัดการกากอุตสาหกรรมประเภท 101 105 และ 106 และปี 63 จะเริ่มก่อสร้างเตาเผาขยะ กำลังการผลิต 330 ตันต่อวัน และระดับกำลังการผลิตดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าจำนวน 9 เมกกะวัตต์
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะเสนอตัวเป็นผู้กำจัดสารปนเปื้อนบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ภายในระยะเวลา 15-20 ปี
นอกจากนี้บริษัทยังมีความสนใจลงทุนร่วมกับบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด เพื่อรับสัมปทานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประประส่วนภูมิภาค(กปภ.) เพื่อส่งน้ำประปาให้กับจังหวัดภูเภ็ต ขณะนี้รอความชัดเจนในเรื่องของแผนธุรกิจคาดจะได้ข้อสรุปใน ก.ค.62
พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (7UP – W4) หรือ วอร์แรนต์ จำนวนไม่เกิน 605.91 ล้านหน่วย เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ในราคาหน่วยละ 0.05 บาท