รู้ทันการลงทุน กับ KGI (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์)
ยืนเหนือ 1,650 จุดได้ พอเล่นสั้นๆ ได้
ต่ำกว่า 1,650 จุด ถอยก่อน ปลอดภัยกว่า
SET index สัปดาห์ก่อน ทดสอบ 1,650 จุดได้ตามคาด สัปดาห์นี้แนะนำจับตาเม็ดเงิน Fund flow ต่างชาติ หากยังรักษาระดับการซื้อสุทธิได้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่ SET index จะทดสอบแนวต้านถัดไป 1,680 จุด เราแนะนำเพียง “เก็งกำไรสั้น” เนื่องจากประเมินมีความเสี่ยงสูงที่ดัชนี SET index จะพักฐานหลังขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,650 จุดใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเชิงพื้นฐานรออยู่อีก โดยประเมินหาก SET index ต่ำกว่า 1,650 จุด มีโอกาสพักฐานที่แนวรับ 1,640 – 1,630 จุดได้
ประเด็นด้านบวก ที่สนับสนุนตลาดหุ้นฯ i) การเมืองในประเทศ ปลดล๊อกการเลือก นายกฯ ไปได้แล้ว รอการจัดตั้งรัฐบาลและการประกาศนโยบายโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจต่อไป ii) การส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจช่วยหนุนให้ค่าเงินในเอเชียรวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และเป็นบวกต่อเม็ดเงิน Fund flow
ประเด็นด้านลบ ที่อาจถ่วงตลาดหุ้นให้ปรับขึ้นได้ไม่ไกล i) สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ยังไม่ได้ข้อสรุป ii) ประเด็นการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ ทำให้มีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มส่งออก (โดนกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าด้วย) ทำให้แม้ว่า SET index จะไม่ปรับขึ้น Valuation ก็แพงขึ้นได้ ดังนั้น เราจึงแนะนำให้จับตาดูประมาณการ EPS ของ SET index ในช่วงเดือน มิ.ย. จากปัจจุบันที่ประมาณ 107 บาท (เฉลี่ย Bloomberg consensus) จึงจะสามารถประเมินระดับ Valuation ของดัชนีที่แน่นอนได้ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปรับลด
เลือกหุ้น 3 กลุ่ม คือ i) Defensive stock เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า RATCH, BGRIM เป็นต้น ii) กลุ่มที่น่าจะรีบาวด์ หลังการเมืองได้บทสรุปรัฐบาลใหม่ชัดเจน และลุ้นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ STEC, CK, AMATA, CPALL, SCCC เป็นต้น iii) หุ้นเด่นในเชิง Quantitative ได้แก่ CPF, SAMART, JMT เป็นต้น