ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า หลังจากบอร์ด บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) ได้มีมติขายหุ้น บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) ทั้งหมด 39.28% ให้กับ บมจ. เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT ที่อยู่ในช่วงการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์
โดย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยคาดว่ามีโอกาสที่ FPT จะได้ GOLD ในสัดส่วนถึง 79.2% เพราะคาดว่าผู้ถือหุ้นใหญ่อีก 1 รายคือ บริษัทเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งประเทศไทย (FPHT) ซึ่งถือหุ้นอยู่ 39.92% ก็มีโอกาสจะไปทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์
ทั้งนี้แม้ราคาหุ้น FPT ปรับขึ้น 10% ตั้งแต่ที่มีการแนะนำ ซื้อ แต่เห็นว่าตลาดฯยังไม่ตอบสนองการเติบโตที่สดใสมากหลังได้ GOLD มา ตามรายงานฉบับก่อน จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐาน 22.30 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี SOP ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 17%
ลุ้นUVจ่ายปันผลพิเศษที่4%
ส่วนการที่ UV ตัดสินใจขาย Tender Offer GOLD ทั้งหมดที่ถืออยู่ 912.8 ล้านหุ้น หรือในสัดส่วน 39.28% ที่ราคา 8.50 บาท ได้รับเงิน 7,759.1 ล้านบาท ทำให้ GOLD สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยจะมีการเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/62 เพื่ออนุมัติในวันที่ 19 ก.ค.62
โดยคาดว่า UV จะมีการบันทึกกำไรพิเศษในงวด 3Q62 ที่กำไรหลังภาษีประมาณ 1,972 ล้านบาท (จากกำไรก่อนภาษี 2,465 ล้านบาท) ทำให้ผลประกอบการดีเป็นพิเศษ หรือคิดเป็น 1.03 บาทต่อหุ้น หากบริษัทนำมาจ่ายปันผลพิเศษทั้งหมด (Best Case Scenario) จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 16% เทียบเงินปันผลปกติปีที่แล้ว (1 ต.ค.60-30 ก.ย.61) ที่ 0.26 บาท หรือเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 4% จึงอาจจะมีการเก็งกำไรเรื่องเงินปันผลพิเศษตามมาได้
ด้าน GOLD แนะนำให้ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ ออกไป เพราะมีโอกาสสูงที่จะออกจากตลาดฯ (Delist) ซึ่งตามเงื่อนไข ของ FPT คือ หากได้ GOLD มา 90% ขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ก็ขาดเพียง 10% เท่านั้น เมื่อ UV และ บริษัทเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งประเทศไทย ต่างก็ไปทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ GOLD โดยข้อเสียของการออกจากตลาดฯคือ ไม่มีสภาพคล่องการซื้อขายหุ้น และขาดข้อมูล เพราะไม่ต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯอีกแล้ว