มิติหุ้น-BPP ผลงานไตรมาส2/2562 ร้อนฉ่าหลังฤดูร้อนโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี-หงสากำลังการผลิตพีคหนุนโตดีกว่าไตรมาสแรกของปีนี้ ลั่นโค้งท้ายปีจ่ายไฟฟ้าอีก 114 MW พร้อมเดินหน้าเจรจาลงทุนโซลาร์ฟาร์มเวียดนามเพิ่ม 400 MW โบรกมองปีนี้กำไรนิวไฮ ชี้เป้า 28 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส2/62 จะออกมาเติบโตดีกว่าไตรมาส1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 1,254 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส2 เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย และเป็นไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเลือกซื้อไฟฟ้าจากโครงการ IPP โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าหงสาที่ สปป.ลาว ส่งให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นคาดว่าจะอยู่ในระดับ 89%
นอกจากนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน บีแอลซีพี ที่จ.ระยอง ที่กลับมาเดินเครื่องเต็มประสิทธิภาพในการไฟฟ้าอยู่ในระดับ 100% หลังจากหยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ช่วงปลายปี 61 ไปจนถึงต้นปี 62 ประมาณ 70 วัน
ไตรมาส4จ่ายไฟ 114 MW
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส4/62 เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) 114 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมหลวนหนานระยะที่ 3 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน 52 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น 5 โครงการกำลังการผลิตรวม 62 เมกะวัตต์ ดังนั้นจะส่งผลให้สิ้นปี 62 จ่ายไฟฟ้าทั้งสิ้นเป็น 2,150 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตในมือ 2,869 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน BPP อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศเวียดนามขนาดกำลังการผลิตราว 400 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในปีนี้ พร้อมกันนี้ยังสนใจเข้าร่วมปะมูลโรงไฟฟ้า IPP ที่อยู่ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี2018) และมองโอกาสการลงทุนในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามแผนการลงทุนของ BPP นั้นมีแผนปรับเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมตั้งเป้ากำลังการผลิต 4,300 เมกะวัตต์ 68 เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจาหลายโครงการที่มีความชัดเจนในการลงทุน
โบรกฟันธงกำไรเด่น
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินหุ้น BPP ว่าไตรมาส2/62 คาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส1/62 และจะเติบโตดีกว่าไตรมาส2/61 ที่มีกำไรสุทธิ 1,885 ล้านบาทเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้า บีแอลซีพี และโรงไฟฟ้าหงสา และยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่นเข้ามาหนุนกำไร ส่วนภาพรวมปี 62 คาดว่ามีกำไรสุทธิ 5.5 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ดังนั้นจึงประเมินราคาเป้าหมาย 28 บาทแนะนำให้รีบ “ซื้อ”