ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 4 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 2562 ในวันที่ 14 มิ.ย. 2562 นี้
ประกอบด้วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(TFFIF) โดยบริษัทเป็นผู้จัดการกองทุนร่วมกับ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผลและลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 2 โดยจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.1025 บาทต่อหน่วย และลดทุนจดทะเบียน จากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากการตัดจำหน่ายค่าใช้จ่ายในการออกและเสนอขายหน่วยลงทุน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด โดยลดเงินทุนจดทะเบียนในอัตรา 0.0158 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินจ่ายปันผลและลดทุนทั้งสิ้นในอัตรา 0.1183 บาทต่อหน่วย ด้วยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 9.9911 บาท ลดลงเหลือหน่วยละ 9.9753 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินกว่า 468 ล้านบาท
รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (GATIF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 14 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย คิดเป็นเงินกว่า 417 ล้านบาท กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท ( TTLPF ) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 34 ในอัตรา 0.4220 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินประมาณ 76 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี .พี ทาวเวอร์ โกรท ( CPTGF ) จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 21 ในอัตรา 0.2180 บาทต่อหน่วย เป็นเงินกว่า 210 ล้านบาท ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลทั้ง 4 กองทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุนให้นักลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 241 (KTFF241) อายุโครงการ 12 เดือน และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 245 (KTFF245) อายุโครงการ 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 18 มิ.ย.2562 เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ผลตอบแทนของกองทุน KTFF 241 อยู่ที่ประมาณ 2.00% ต่อปี ส่วนกองทุน KTFF 245 อยู่ที่ 1.80%