ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการปรับตัวขึ้นเนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับที่ต่ำ ประกอบกับค่าเช่าและอัตราการเช่าโดยรวมอยู่ในระดับที่ดี
ขณะที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในประเทศสิงคโปร์ปรับตัวลงเล็กน้อย ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ อย่างไรก็ตาม REITs ยังคงปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดโดยรวม จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับลดลงมาก โดย REITs ที่มีผลประกอบการดีและมีความสามารถในการเพิ่มจำนวนเงินปันผล ยังคงปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
กองอสังหา-รีทส์ยังมีปัจจัยบวกหนุน
โดย บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ แม้ว่าสินทรัพย์ประเภทนี้โดยรวมจะมี Valuation ที่ปรับตัวขึ้นมามาก แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกได้ปรับลดลงมากด้วยเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวลงจาก 2.68% มาอยู่ที่ 2.11%(ข้อมูล ณ 10 มิ.ย.62) ทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ น่าจะยังได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่มีอยู่สูง จากการที่ธนาคารกลางหลักต่างๆ ของโลกมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย และการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ ยังมีอัตราจ่ายปันผลที่ประมาณ 5% ซึ่งสูงกว่าตลาดโดยรวม
จ่ายปันผลกองK-PROP
บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค พร็อพเพอร์ตี้ เซคเตอร์ (K-PROP) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2561 – 31 พ.ค. 2562 ในอัตรา 0.46 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 14 มิ.ย. 2562 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 677.22 ล้านบาท
สำหรับกองทุน K-PROP มีนโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งไทยและสิงค์โปร์ อาทิ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2559 กองทุน K-PROP มีการจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นเงิน 2.92 บาทต่อหน่วย
โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมากองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.16% ต่อปี อีกทั้งผลการดำเนินงานย้อนหลังยังสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และ 3 ปีอยู่ที่ 14.72% ต่อปี และ 11.46% ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 14.65% ต่อปี และ 11.23%ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 62)