หุ้นที่ กลต. และตลท. ขึ้นเครื่องหมาย SP มาเป็นเวลานานนั้น มีต้นสายปลายเหตุที่แตกต่างกัน เช่นบิดเบือนทางบัญชี ไม่ส่งงบการเงินติดต่อกันหลายงวด มีธุรกรรมแปลกๆ แล้วไม่ชี้แจงให้กระจ่าย มีขาดทุนต่อเนื่องกันหลายปี หรือมีส่วนทุนติดลบเป็นต้น ในกลุ่ม 25 บริษัทนี้ก็แบ่งเป็นความร้ายแรงได้หลายระดับ บางบริษัทมีการแก้ไขงบการเงิน และแจ้งครบถ้วนแล้ว บางบริษัทยังแก้ไขไม่จบ และแจ้งไม่ครบ
วันนี้เรามาเริ่มกันที่ 12 บริษัทที่มีการแจ้งงบการเงินครบถ้วนถึงงวดล่าสุดนี้เลยคือสิ้นสุดไตรมาส 1/2562 เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมที่สุด และน่าจะเข้าเทรดเพื่อปลดทุกข์นักลงทุนได้ แต่ราคาหุ้นจะเป็นเท่าไรนั้นก็ต้องวิเคราะห์กันหลายปัจจัย ดังนี้
1 บริษัทที่ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ จัดว่ายังอยู่ในเขตที่ต้องระวัง เช่น VI, YNP
2 บริษัทที่ยังมีขาดทุนสะสมมาก และมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้น จะต้องถูกประเมินมูลค่าที่ลดลง เพราะมีโอกาสลดทุน และไม่สามารถจ่ายปันผลได้ อันนี้โดนเกือบทุกบริษัท ยกเว้น BUI, SAFARI สำหรับ WORLD แม้จะมีกำไรสะสม แต่ก็มีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นกว่า 2.3 พันล้านบาทแฝงอยู่ในงบ ทำให้จ่ายปันผลไม่ได้ และยังต้องล้างออก ซึ่งต้องใช้ขั้นตอนพอควร
3 ผลประกอบการมีกำไร เป็นกอบเป็นกำ (ตารางเป็นงบ 2561) และ Q162 ก็ยังมีกำไรต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทที่ดูดีได้แก่ BUI, THL และ SAFARI
4 คำนวณ Book value ได้ และเมื่อเทียบกับราคาจะได้ค่าที่เรียกว่า PBV จะต้องเป็นต้วเลขที่ไม่สูงจะถือว่าถูกกว่าตัวอื่น เช่น A5 มี PBV 32 เท่า หมายความว่าราคาหุ้นในวันที่ปิดสูงกว่า Book value ล่าสุดถึง 32 เท่า ถือว่าแพง
►ดังนั้น A5 BLISS PUMPUI THL WORLD WR YCI ราคาจริงไม่ควรจะห่างจาก Book value มากนัก หากเปิดสูงควรขายทิ้ง
►VI, YNP ค่อนข้างอันตราย เพราะ Book ติดลบ
►PRO เก็งกำไรได้เท่า Book ที่ 0.24-0.36 บาท
►►BUI ขอลุ้นที่ Book value 24 บาท
►►SAFARI ขอลุ้นที่ราคา 2.80-3.50 บาท
วันพุธ อย่าพลาด มาต่อกันในภาคสองกับบริษัทที่เหลือ