ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า กลุ่มโตเกียวมารีนประกาศแต่งตั้ง มร.โนโบรุ ยามากาตะ (Mr. Noboru Yamagata) ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร โตเกียวมารีน โฮลดิ้ง ดูแลธุรกิจภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และ มร.ซาลูน ธรรม (Mr. Saloon Tham) ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โตเกียวมารีน เอเชีย เมื่อเดือนเมษายนของปีนี้เช่นกัน โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบดูแลธุรกิจในภูมิภาคเอเชียทั้งหมดของโตเกียวมารีนกรุ๊ป
ด้านนายชิน ทานิโมโต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยผลประกอบการบริษัทปี 2561 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,708 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,596 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 5,113 ล้านบาท บรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 9% เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2560 โดยมีสัดส่วนการขายหลักมาจากช่องทางการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต ประกันกลุ่ม และช่องทางอื่นๆ ตามลำดับ
เดินหน้าพิชิตเป้าเบี้ยรับรวม7.4พันล.
สำหรับ ในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมาย เบี้ยประกันภัยรับรวม 7,471 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 11% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,700 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 5,771 บาท จนถึงเดือนพ.ค. 2562 บริษัทมีผลผลิตเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,013 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ช่องทางตัวแทนหัวหอกปั๊มเบี้ย
ด้านนายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เผยผลประกอบการช่องทางตัวแทนจนถึงพฤษภาคม 2562 มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 752 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 182% (โดยแบ่งออกเป็นเบี้ยประกันภัยสามัญ 358 ล้านบาท เติบโต 42% และเบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว (Single Premium) 394 ล้านบาท เติบโต 2469%) และเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 1,178 ล้านบาท รวมเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,930 ล้านบาท เติบโต 47% โดยในปี 2562 ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,250 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 4,113 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 5,363 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนตัวแทนเป็น 4,300 คน
“จากรายงานสถานะทางการเงินของบริษัท ณ สิ้นปี 2561 จะพบว่าบริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) 745% ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดไว้ 140% เรามีการควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการที่ดี ที่ทำให้ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดี โครงสร้างผลตอบแทนของตัวแทนเป็นที่น่าพอใจ และบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน จากรายงานตัวเลขในงบกำไรขาดทุนปี 2561 จะพบว่าปัจจุบันบริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 949 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 24,344 ล้านบาท