มิติหุ้น – AOT บอร์ดอนุมัติผลประมูลให้สิทธิ “คิง เพาเวอร์” ประกอบกิจการดิวตี้ฟรี – บริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ 4 สนามบิน ผู้บริหารรับ! ยอดผู้โดยสารทั้งปีอาจโตต่ำเป้า แต่มั่นใจรายได้-กำไร “นิวไฮ” ต่อ เตือน! ราคาแรงใกล้ชนเป้าสูงสุดของโบรกฯ แล้ว
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.62 มีมติอนุมัติผลการประมูลให้สิทธิเอกชนประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.63 – 31 มี.ค.74 ซึ่ง ทอท.จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือน 20% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่าย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือตามจำนวนเงินเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ปีแรกเป็นจำนวนเงิน 15,419 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
รอรับส่วนแบ่งรายได้จากคิงเพาเวอร์
โครงการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.63 – 31 มี.ค.74 ซึ่ง ทอท.จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือน 20% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้น ๆ ก่อนหักค่าใชจ่าย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือตาม Minimum Guarantee ปีแรก เป็นจำนวนเงิน 2,331 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
และ 3. โครงการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.63 – 31 มี.ค.74 ซึ่ง ทอท. จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือน 15% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้น ๆ ก่อนหักค่าใชจ่าย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือ Minimum Guarantee ปีแรก เป็นจำนวนเงิน 5,798 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
มั่นใจรายได้-กำไรพุ่งนิวไฮเป็นปีที่ 4
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารตั้งแต่เดือน ต.ค.61 ถึงปัจจุบัน เติบโต 1.8% ดังนั้น ภาพรวมปีนี้ตามปีงบประมาณ (ก.ค.-ก.ย. 62) แนวโน้มผู้โดยสารจะเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 6-8% เนื่องจากช่วงต้นปี 62 นักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลดลง แต่ในส่วนของกำไรและรายได้ จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น AOT ที่ปรับขึ้นแรง ทำให้ใกล้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ประมาณการ ดังนั้น ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการเข้าเก็งวกำไร AOT โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า EPS ของ AOT ปีนี้จะอยู่ที่ 1.96 บาทต่อหุ้น และเพิ่มเป็น 2.20 บาทต่อหุ้นในปี 2563 พร้อมทั้งแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 75 บาท