มิติหุ้น – SEAFCO เตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท จากโครงการ Central Dusit ดันยอด Backlog สู่ระดับ 3,300 พันล้านบาท พร้อมลุ้นส่วนแบ่งงานฐานรากจากโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐ มั่นใจรายได้รวมปี 62 ทำได้ตามเป้าหมายที่กว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเหลือ backlog ต่อเนื่องไปยัง 63 อีกกว่า 2,000 ล้านบาท โบรกฯ ใหเป้าหุ้น 10.20 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ซีฟโก้ หรือ SEAFCO ผู้รับก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ งานฐานราก และงานโยธาทั่วไป โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เผยว่า SEAFCO อยู่ระหว่างเตรียมเข้าเซ็นสัญญารับงานใหญ่ในโครงการ Central Dusit โดยเป็นงานในส่วนของ SEAFCO คิดเป็นมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสประมาณ 95% ที่จะได้รับงานนี้ และคาดว่า SEAFCO จะมีการประกาศรับงานภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.2-3.3 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่มี Backlog ราว 2.2 พันล้านบาท
เจรจารับส่วนแบ่งงานจากกลุ่มทุนจีน
ขณะที่ ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SEAFCO เผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 62 มั่นใจว่าสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 ที่คาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมามากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แต่งานส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นกลุ่มทุนจากจีนที่เข้ามาร่วมประมูลงาน ซึ่งบริษัทจะมีการเข้าเจรจาเพื่อรับงานที่เกี่ยวกับงานด้านฐานราก
“ก่อนจบเดือน มิ.ย.นี้ เราจะมีข่าวดีที่จะได้รับงานใหญ่แน่นอน แต่คงบอกรายละเอียดตอนนี้ไม่ได้ ส่วนครึ่งปีหลังยังมีโอกาสได้งานใหม่ต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลคงเดินหน้าพวกโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ แต่งานพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทุนจากจีนได้ไป ซึ่งเราก็คงต้องไปคุยกับเขาเพื่อรับงานในส่วนที่เราถนัด และเราถือเป็นรายใหญ่ของงานฐานรากในไทยอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหา” ดร.ณรงค์ กล่าว
รายได้เดินหน้าสู่เป้าหมาย 3,000 ล.
นอกจากนี้ บริษัทจะยังมีการเซ็นสัญญารับงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนของบริษัทที่จะมีการรับงานใหม่ๆ เข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 200-300 ล้านบาท หรือมีงานใหม่เข้ามาไม่น้อยกว่า 750 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งจะผลักดันให้รายได้รวมในปี 62 อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 10% ตามเป้าหมาย รวมทั้งคาดว่าจะเหลือ Backlog ไปทยอยรับรู้รายได้ในปี 63 อีกไม่ต่กว่า 2 พันล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยยังให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง “มากกว่าตลาด” จากงานในมือของกลุ่มที่อยู่ในระดับสูง โดยโครงการใหญ่หลายแห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และรับรู้รายได้เร่งขึ้นในลักษณะ S-curve
ขณะที่การประมูลตาม Action Plan ในปี 62 รวม 41 โครงการ วงเงินลงทุน 1.77 ล้านล้านบาท จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มฐานงานในมือที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาทเร่งขึ้นทำสถิติใหม่อีกครั้ง โดยมี Top Pick เป็น STEC และ SEAFCO ซึ่งประเมินราคาเหมาะสมของ SEAFCO ไว้ที่ 10.20 บาท
www.mitihoon.com