SET index ทะลุ 1700 จุด เร็วกว่าคาด ด้วยปริมาณซื้อขายที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเป็นผลจาก i) เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปีนี้ (เป็นไปตามคาด แต่ตลาดฯ แข็งกว่าคาด ไม่มีการ Sell on fact ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้า) ii) ความหวังเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน โดยผู้นำสหรัฐฯส่งสัญญาณเชิงบวก และ iii) ประเด็นราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ จากความกรณีความขัดแย้งตะวันออกกลาง (เป็นประเด็นที่ เราไม่ได้คาดว่าจะเกิดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นมาช่วยหนุนดัชนี SET index)
ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเมิน Upside ของ SET index ในกรณี Best case อาจแตะระดับ 1760 จุด ในเชิงพื้นฐาน หากเม็ดเงิน Fund flow แข็งแกร่งกว่าคาด สำหรับนักลงทุนที่ได้ทำการขายกำไรไปบ้างแล้วบริเวณ 1700 จุด ตามที่เราแนะนำ อาจพิจารณาการ “เก็งกำไรสั้น” หากดัชนี SET index ยังยืนเหนือแนวจิตวิทยา 1700 จุดได้ เนื่องจากประเมินในระยะสั้น สัปดาห์นี้ ข่าวการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการแถลงนโยบายโดยเฉพาะนโยบายเศรษบกิจ อาจช่วยหนุน Sentiment การเก็งกำไรสั้นได้ อย่างไรก็ดีเรายังคงกังวลต่อประเด็น EPS ของบริษัทจดทะเบียนที่ยังถูก Downgrade ต่อเนื่องในขณะนี้ อาจทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่ “ไม่ถูก” จึงมีความเสี่ยงที่จะพักฐาน หรือ ถูกขายทำกำไร ได้เช่นกัน จึงแนะนำเพียง “เก็งกำไรสั้น” โดยประเมินแนวรับ 1715, 1700 จุด / แนวต้าน 1735, 1750 จุด ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นจึงควรเน้นไปที่หุ้นกลุ่มที่คาดจะได้อานิสงส์นโยบายภาครัฐฯของรัฐบาลใหม่ เช่น หุ้นกลุ่มอสังหาฯ (SPALI, PSH, ORI, ALL เป็นต้น) หุ้นกลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA) หุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, COM7) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ (STEC, SCCC, SEAFCO) และอาจพิจารณาหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวอย่าง TFG (ราคาหมู + ไก่พุ่งแรง / วัตถุดิบอาหารสัตว์ลงแรง) GGC, AIE (ราคาน้ำมันปาล์มดิบพุ่งแรง + เริ่มต้นไบโอดีเซล บี10) เป็นต้น
โดย รู้ทันการลงทุนกับ KGI
www.mitihoon.com