มิติหุ้น-JWD มือขึ้น แกนนำใหญ่ “ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา” จ่อจับมือต่างชาติลุยอินฟราสตรัคเจอร์ ทั้งทางบก น้ำ อากาศ หลังนโยบายภาครัฐชัด ส่วนแผนเทกโอเวอร์แบนด์อาหารดังชั้นนำเตรียมปิดจ๊อบไตรมาส 3 นี้ ลั่นรายได้ปี 62 ทะยาน 20% ฟากกูรูค่ายดังเจาะขอบพื้นฐานเจ๋งจริงกำไรพุ่งพรวด 51% แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 12.80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ โดย นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากลุ่มทุนทั้งในประประเทศและต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจอินฟราสตรัคเจอร์โดยจะเน้นการบริหารงานท่าเรือ ขนส่งรถไฟ ขนส่งน้ำ และบริการขนส่งทางอากาศ
“ หลังจากมีรัฐบาลแล้ว คาดว่าโครงการแมกกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐจะถูกขับเคลื่อนได้มากขึ้น ดังนั้นเราจึงมองเห็นช้องทางในการรุกธุรกิจด้านอินฟราสตรัคเจอร์มากขึ้น เพราะเรามองว่าการขนส่งและการบริหารจัดการทั้งทางบกและทางน้ำจะเพิ่มเป็นทวีคูณหากเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว” นายชวนินทร์กล่าว
เดินหน้าเติบโตไม่หยุด
สำหรับแผนการขยายสัดส่วนในธุรกิจอาหาร ด้วยการเทกโอเวอร์แบนด์ดังชั้นนำทั้งในไทย กัมพูชา และเวียดนามนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้ามากแล้ว และคาดว่าจะปิดดีลได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
อย่างไรก็ดีสัดส่วนรายได้ปัจจุบันแบ่งออกเป็น บริหารคลังและพื้นที่ 56% ธุรกิจขนส่ง 17% ธุรกิจอาหาร19% ที่เหลืออื่นๆ ส่วนในอนาคตธุรกิจอาหารจะเพิ่มสัดส่วนมาอยู่ที่ 25% ภายหลังจากการเทกโอเวอร์แบนด์ชั้นนำแล้ว
ดังนั้นบริษัทจึงมีความมั่นใจผลประกอบการปีนี้จะยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของรายได้ที่ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ระดับ20% เปรียบเทียบกับปี 2561 ที่บริษัทมีรายได้จำนวน 3,319.14 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 252.13 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2562 บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะยังเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ยอดขายยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนในครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ยอดขายจะเข้ามามากเป็นพิเศษหรือจะมีโอกาสเติบโตได้เป็นสองเท่าตัวหากเทียบกับครี่งปีหลังของปีที่ผ่านมา
โบรกสั่งลุยชี้เป้าไกล
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังคงมองพื่นฐาน JWD แข็งแกร่ง และยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท โดยประเมินว่าธุรกิจมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปีตาม Seasonal ของธุรกิจคลังสินค้า จึงปรับประมาณการกำไรปกติตั้งแต่ปี 2562 ของ JWD ขึ้นเฉลี่ยปีละ 14.4% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด JWD จะมีกำไรปกติในปี 62 ราว 361 ล้านบาท โต 51.4%จากปีก่อน
ทั้งนี้มาจากปัจจัย 1) Volume สินค้าทะเลเพิ่มขึ้นมาก หลัง IUU ปลดใบเหลืองให้กับประมงไทย ทำให้ผู้ประกอบการในไทยสามารถส่งสินค้าไปยังประเทศในกลุ่ม EU มากขึ้น บวกกับในช่วงไตรมาส 3/2562 คาดเริ่มรับรู้รายได้จากคลังสินค้าเย็นแห่งใหม่ที่ผ่านพ้นช่วงปรับปรุงจากคลังสินค้ามาร์จิ้นต่ำ 2) ธุรกิจอาหารของ CSLF คาดขยายตัวได้ดี หลังได้รับงาน Food Supply Chain ใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น 3) แผนขยายตลาดไปยังกลุ่ม B2C มากขึ้น ผ่านการลงทุนใน Store It (ธุรกิจ Self-Storage), Art Space (ธุรกิจจัดเก็บสินค้ากลุ่มงานศิลปะ) และ CJ JWD (ธุรกิจ B2C และ B2B Logistic) ที่ดีขึ้นตามลำดับ และ 4) คาดตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2562 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน Transimex