กลยุทธ์การลงทุน – กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกกลับมาแล้ว

156

หลังจากที่สภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และใกล้จะประกาศนโยบายแล้ว นักลงทุนต่างชาติก็ได้เข้าซื้อหุ้นไทยสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท QTD เป็นครั้งแรกในรอบแปดไตรมาส เราคาดว่าโมเมนตั้มจะยังเป็นบวกต่อเนื่อง และยังคงมุมมองบวกกับ SET ในระยะสั้น โดยคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 1,700-1,740 จุด อิงจาก PER +0.0SD ถึง +0.5SD และยังคงเลือก CPALL, GLOBAL, CK, AMATA และ WHA เป็นหุ้นเด่น เราแนะนำให้เพิ่มการลงทุนใน CHG, LPN และ WHA จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และการเป็นเป้าหมายการลงทุนของเม็ดเงินไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติ

ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา เราก็เริ่มเห็นความคืบหน้าจากการเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (และหลังการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI) และในช่วงการเข้ารับตำแหน่งนี้ เราคาดว่าภาวะตลาดน่าจะพลิกเป็นบวกจากความคาดหวังว่าจะมีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยทำให้ GDP เพิ่มขึ้น 2-3% ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2019 นักลงทุนต่างชาติได้เข้าซื้อหุ้นไทยสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท แต่จุดพลิกผันที่แท้จริงคือหลังจากที่มีการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งทำให้การถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติเริ่มขยับเพิ่มขึ้นจาก 29.0% เป็น 29.4% ในปัจจุบัน เราพบว่าหุ้นกลุ่มอาหาร โรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ สื่อ การพาณิชย์ และวัสดุก่อสร้างมีสหสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง FFF (Foreign fund flow) และ FO (Foreign ownership)ในขณะเดียวกัน หุ้นบางกลุ่มที่กล่าวมาก็มีความอ่อนไหวกับ sectoral price return ซึ่งได้แก่กลุ่มอาหาร, โรงพยาบาล, ICT และการพาณิชย์

เรายังคงขอบบนของวัฎจักร SET รอบนี้เอาไว้ที่ 1,700-1,740 จุด อิงจาก PER +0.0SD ถึง +0.5SD เมื่อปลาย 2Q19 โดยเรายังคงชอบหุ้นเด่นที่เราเคยเลือกเอาไว้ก่อนหน้านี้ (+6.0% เมื่อเทียบกับ SET ที่ +2.1%) ซึ่งประกอบด้วย CPALL, GLOBAL, CK, AMATA และ WHA และเราแนะนำให้เพิ่มการลงทุนใน CHG, LPN และ WHA (ซึ่งอยู่ในรายการหุ้นเด่นของเราอยู่แล้ว) เนื่องจากเป็นหุ้นที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมาตั้งแต่ตอนเริ่มวัฏจักรรอบนี้ และคาดว่าธุรกิจและ/หรือผลการดำเนินงานน่าจะพลิกฟื้นดีขึ้น

โดยบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

www.mitihoon.com