ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บลจ. ไทยพาณิชย์ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล ได้แจ้งให้ทราบว่า บริษัทจัดการได้รับมติจากที่ประชุม เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ให้แก้ไขโครงการจัดการกองทุนฯ ทั้ง 2 วาระ คือ วาระที่ 1. การอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการจัดการกองทุนฯ เพื่อสะท้อนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการให้เช่าเสาของบริษัท เอเซีย ไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น จ ากัด (“AWC”) ที่กองทุนฯ ได้ลงทุนในสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิที่เกิดจากการที่ AWC ให้เช่าเสาโทรคมนาคมที่ AWC เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (“เสาโทรคมนาคมของ AWC”) แก่บริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด (“BFKT”)
ส่วนวาระที่ 2. การอนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ซึ่งที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 มีมติอนุมัติให้กองทุน DIF เข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 15,800 ล้านบาท และอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุน รวมไม่เกิน 10,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสจัดหาผลประโยชน์และผลตอบแทนการลงทุนที่ดีจากทรัพย์สินของกองทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในระยะยาว รวมถึงรองรับเทรนด์เติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
โบรกเคาะราคาพื้นฐานระดับ 17บาท
ทั้งนี้ ทาง บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การเพิ่มสินทรัพย์มีผลกระทบน้อย โดยการอัดฉีดสินทรัพย์ในวันที่ 19 ส.ค. จะมีผลกระทบเชิงบวกสุทธิเพียง 1% ต่อ EpS และ DPS ในประมาณการปีหน้าของฝ่ายวิเคราะห์ ซึ่งทางฝ่ายได้ลดประมาณการกำไรปกติปี FY62-64 ลงมา 4-5% เนื่องจากปรับสมมติฐานสัญญาเช่าของบุคคลที่สาม และคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่สูงขึ้น ที่ 17.0 บาท เมื่อกำลังเข้าสู่ FY63F และลด WACC จาก 8.0% เป็น 6.9%
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การซื้อสินทรัพย์รอบใหม่กระทบ DIF ไม่มาก คาดว่า DIF จะซื้อสินทรัพย์ใหม่เข้ามาเพิ่ม 15 พันล้านบาท โดยใช้เงินจากการเพิ่มทุนทั้งหมด โดยมี Dilution Effect ไม่เกิน 9% (คาดเพิ่มทุน 987 ล้านหน่วย @ 15.20 บาท/หน่วย มีส่วนลด 7% จากราคาปัจจุบัน) และมองว่าการซื้อสินทรัพย์รอบใหม่กระทบมูลค่าหุ้นไม่มาก โดยราคาพื้นฐานที่ประเมินด้วย DCF ยังคงใกล้เคียงเดิมคือ 17.30-17.50 บาท ขึ้นกับราคาซื้อสินทรัพย์รอบใหม่และราคาเพิ่มทุน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 17.40 บาท