มิติหุ้น- สแกน “หุ้นกลุ่มแบงก์” ช่วงไตรมาส 2/62 กำไรทรุดเหลือ 5.3 หมื่นล้านบาท สวนทาง “KKP” โชว์กำไรสุทธิ 1.7พันล้านบาท พุ่ง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังสินเชื่อโตไม่หยุด โกยเงิน “ธุรกิจหลักทรัพย์”เพียบ แถมกวาดรายได้ค่าฟีในการทำดีล GPSC ซื้อ GLOW และลุ้นดีล TMB และ TCAP มั่นใจปีนี้กำไรนิวไฮ 6.45 พันล้านบาท ชูยิลล์สูง 7% แนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” จากการเข้าสำรวจหุ้น “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” โดย “นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล” นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป เผยว่า ฝ่ายวิจัยประเมินผลประกอบการไตรมาส 2/62 “ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่ง” คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.3% จากไตรมาสก่อน
เนื่องจากไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา BAY ได้บันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น “บริษัท เงินติดล้อ” เข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ไตรมาส 2/62 คาด BAY จะเป็นธนาคารที่มีกำไรเด่นสุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะรายได้จะเพิ่มขึ้นตามยอดสินเชื่อ ขณะที่ KKP จะเป็นธนาคารที่มีกำไรเด่นที่สุด เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพราะไม่มีผลขาดทุนจากเงินลงทุนมากเหมือนในไตรมาสก่อน และการตั้งสำรองที่จะลดน้อยลง
อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยให้ SCB เป็น Top pick เพราะสินเชื่อในเดือน พ.ค. เร่งตัวขึ้นและน่าจะทำให้สินเชื่อช่วงไตรมาส 2/62 เติบโตสูงกว่าไตรมาส 1/62 และสินเชื่อจะเติบโตต่อเนื่องไปในช่วงที่เหลือของปีด้วย ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” SCB เป้าหมาย 146 บาท
KKPบุ๊กดีลใหญ่Q2เด่นสุด
ด้าน “บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เผยว่า คาด KKP แจ้งไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 38% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลดีจากมูลค่าการซื้อขายใน “ธุรกิจหลักทรัพย์” ที่กลับมาเติบโตได้ 18% จากไตรมาสก่อน ประกอบกับ การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)ให้กับ GPSC ในการเข้าซื้อ GLOW มูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ค่าธรรมเนียมเข้าในช่วงไตรมาส 2/62 นี้ด้วย
โดยปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 47% จากไตรมาสก่อน ส่วน NIM ยังทรงตัวได้ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 4.4% ตามการเติบโตของสินเชื่อที่ 2.5% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หลักๆมาจากสินเชื่อรายย่อย ทั้งในส่วนของสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์มือสองซึ่งได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ารถใหม่ ขณะที่ credit cost ที่รวมผลขาดทุนรถยึดอยู่ที่ 115bps ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 120bps ส่วน NPL ทรงตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 4.1%
ชูยิลล์สูง7%-เป้า80บ.
ส่วนแนวโน้มผลงานช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่คาดจะเติบโต 10% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร ประกอบกับเชื่อว่าธุรกรรมจากภาวะตลาดทุนจะกลับมามีการเติบโตของกำไรได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงยังมีการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับดีล TMB และ TCAP มูลค่าดีล 1.3 แสนล้านบาทด้วย ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธินิวไฮอยู่ที่ 6.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน ให้อัตราเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูง 7% ต่อปี แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 80 บาท