ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH โดย “นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ประธานคณะกรรมการบริหาร เผยว่า ในวันที่ 12 ก.ค.62 บริษัทฯมีพิธีเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการภายใต้ “บจ.สยาม พาวเวอร์ หรือ SP” และ TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 9.5 MW และมีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขาย 8 MW ซึ่งมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ในปี 64
“ โรงไฟฟ้าขยะชุมชนโครงการสยาม พาวเวอร์ อยู่ภายใต้สัญญาก่อสร้างและบริหารจัดการระบบการนำขยะมูลฝอยจากหลุมฝังกลบมาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้า ปริมาณ 3 ล้านตัน เป็นเวลา 23 ปี มูลค่าการลงทุน 1,500 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ได้รับค่าไฟฟ้าในรูปแบบ FIT ราคาหน่วยละ 5.78 บาท คาดอัตราผลตอบแทน EIRR อยู่ที่ 18-23 % ต่อปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตที่ต่อเนื่อง” นางกนกทิพย์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 62 บริษัทมั่นใจจะมีโรงไฟฟ้าที่ COD เพิ่มเป็น 80 MW โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD เต็มจำนวน 60 MW ขณะที่ในไตรมาส 4/62 จะมีโรงไฟฟ้าที่COD เพิ่มอีก จำนวน 20 MW ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH 1, TPCH 2
อีกทั้งไตรมาส 1/ 63 จะมีโรงไฟฟ้าที่ COD เพิ่มอีก 2 โรงไฟฟ้า คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH 5 จ.นราธิวาส มี
กำลังการผลิตติดตั้ง 6.3 MW และ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG) จ.ปัตตานีซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของบริษัท มีกำลังการผลิตติดตั้ง 23 MW ทำให้บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่พร้อมขายไฟได้ทั้งสิ้น 109 MW
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง บริษัทตั้งเป้าจะมีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในปี 63 อยู่ที่ 200 MW รวมทั้งผลดีจากการประกาศแผน PDP 2018 ที่ภาครัฐให้การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขยะชุมชน ได้มีการประกาศเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนขยะชุมชนจากเดิม 400 MW เพิ่มเป็น 900 MW ซึ่งการเพิ่มขึ้นอีก 500 MWนั้น ทำให้บริษัทสามารถขยายแผนธุรกิจเพิ่มเติมภายในประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังมีการแผนการขยายการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาสรุปแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ที่ประเทศเมียนมา เป็นต้น
www.mitihoon.com